พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 89

ฉันนั่งเรือสำราญเป็นครั้งแรก และเป็นครั้งแรกที่โดนคนตามรังควานอย่างหน้าด้านหน้าทนแบบนี้

หน้าตาของฉู่เฟิงก็ไม่เลวนะ เพราะยังหนุ่มและไม่ใช่คนนอนกินบ้านกินเมือง ทว่าอีโก้สูงและความชอบดูแคลนคนอื่นของเขา ทำให้ฉันรู้สึกสะอิดสะเอียนยิ่ง

เขาชูแก้วเหล้าจนเกือบชนหน้าฉันแล้ว “ดื่มให้ผ่อนคลายสักแก้วสิ จะได้หายตื่นเต้นไง”

ฉันดันมือของเขาออก เหล้าในแก้วจึงกระเด็นออกมา

เขาเลิกคิ้ว “มันแพงมากนะคนสวย แต่ถ้าคุณคบกันผม คุณก็ทำเหล้าแชมเปญหกได้ตามใจชอบเลย”

ฉันอยากตบเขาให้หน้าหงายมาก เมื่อฉันเดินผ่านตัวเขา เขากลับทำท่าจะกระโจนเข้ามาโอบเอวฉัน

ลมหายใจของเขารดใส่หูของฉัน มันจะขยะแขยงอะไรขนาดนี้

ฉันนึกถึงวิธีป้องกันตัวที่เฉียวอี้เคยสอนฉัน เมื่อมีคนมากอดเราจากด้านหลัง เราต้องเหยียบเท้าของเขาก่อน จากนั้นก็ใช้ข้อศอกจู่โจมที่ท้อง สุดท้ายก็ใช้หลังพลิกเขาให้คว่ำ ถึงแม้ฉันไม่อยากฝึก แต่เฉียวอี้ก็บังคับให้ฉันฝึก ว่างเมื่อไหร่เธอก็จะบังคับให้ฉันฝึกซ้อมตลอด

ฉันขบฟันทำตามสิ่งที่เฉียวอี้สอน ลำดับแรก ฉันเหยียบเท้าของเขาเต็มกำลัง ต่อด้วยใช้ข้อศอกชกไปด้านหลัง จากนั้นก็ใช้แผ่นหลังพลิกตัวเองเขาให้คว่ำอยู่บนพื้นเรือ

ฉู่เฟิงแหกปากร้องโอดครวญบนพื้น สภาพน่าอนาถมาก เขาคงไม่รู้หรอกว่ามันเกิดอะไรขึ้น

ระหว่างที่เขานอนหมดสภาพบนพื้น ฉันรีบวิ่งออกจากห้อง

เสื้อผ้าฉันยุ่งเหยิงเล็กน้อย ฉันจัดแจงเสื้อผ้าอยู่บนดาดฟ้า ต่อด้วยเสยผมให้เข้าที่ และเมื่อฉันเงยหน้าขึ้นก็เห็นสีชิงชวนกำลังยืนจ้องฉันในระยะที่ไม่ไกลมากนัก

ฉันกำลังลังเลว่าจะบอกเรื่องที่ฉู่เฟิงคิดจะลวนลามฉันไหม แต่ฉันไม่รู้ว่าหลังจากที่บอกเขาแล้วจะเป็นเช่นไร

ฉันเตรียมจะเดินไปหาเขา เขาก็หมุนกายไปซะแล้ว

ฉันรู้สึกกรุ่นโกรธ ฉันกับฉู่เฟิงอยู่ในห้องเก็บของตั้งนาน คนฉลาดอย่างเขามีหรือจะไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

ฉันรู้ดี เวลาที่พวกคุณชายจัดงานปาร์ตี้กัน พวกเขาอาจจะพาสาวควงของตัวเองประเคนให้คนที่ตนต้องการประจบ และหากคนนั้นชอบก็จะทำเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ เพราะพวกเขาต้องทำการค้าขายด้วยกันตลอดเวลา

ดังนั้น การที่เขาพาฉันมาเที่ยวบนเรือสำราญ มันไม่ใช่เรื่องดีเอาซะเลย

ฉันคิดว่าตอนนั้นเซียวซือคงไม่เคยตามเขามาในที่แบบนี้แน่ๆ

คิดๆ แล้วฉันก็หดหู่ใจ พอฉันเดินขึ้นมาถึงขอบดาดฟ้าเรือ ฉันก็เห็นมีคนกำลังตกปลาด้วย สาวๆ กลุ่มหนึ่งนั่งอยู่ใต้ร่มคันใหญ่แล้วคุยกันอย่างสนุกสนาม มันไม่ใช่วิธีตกปลาที่ถูกต้องเลย

ตอนเด็ก คุณพ่อเคยพาฉันไปตกปลาด้วย แต่ตกที่ท่าเรือ ไม่ได้ตกบนเรือ คุณพ่อบอกว่าการตกปลาไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องจดจ่อและต้องอยู่ในอารมณ์อ่อนน้อมถ่อมตน เพราะสิ่งที่คุณตกขึ้นมาคือชีวิต

พวกเธอหัวเราอย่างร่าเริงแบบนี้ เกรงว่าคงตกไม่ได้แม้แต่ตัวเดียว

ฉันนั่งเหม่อลอยด้านข้าง ไม่รู้ว่าฉู่เฟิงกับสีชิงชวนขึ้นมาเมื่อไหร่ สีหน้าของฉู่เฟิงดูราวกับไม่มีอะไรผิดปกติ โอบไหล่สีชิงชวนแล้วพูดคุยอย่างยิ้มแย้ม

สีชิงชวนสวมแว่นกันแดด ฉันจึงไม่เห็นแววตาของเขา ทว่ามุมปากของเขาประดับรอยยิ้มไว้

เขาไม่มีทางผิดใจกับฉู่เฟิงเพราะฉันหรอก

มีคนเอาอุปกรณ์การตกปลาและถังใบเล็กให้พวกเขา สีชิงชวนกับฉู่เฟิงนั่งตกปลาใกล้ๆ กัน

เบ็ดตกปลาในมือสีชิงชวนเป็นสีคราม หากมองไกลๆ จะเป็นสีเดียวกันกับน้ำทะเล จึงแลดูสีชิงชวนถือท้องฟ้าตกปลา

แดดเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ เงาของร่มคันใหญ่หนีไปอยู่ด้านหลังฉัน ฉันจึงต้องเจอแดดเต็มๆ ตากแดดแล้วรู้สึกมึนหัวชะมัด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)