พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 90

สีชิงชวนยกแก้วแล้วกระดกเหล้าแชมเปญเข้าปากจนหมดเกลี้ยง ส่วนคนอื่นล้วนจ้องด้วยความมึนงง สีชิงชวนเลิกคิ้ว “ยังไม่ดื่มเหรอ?”

ทุกคนรีบเทเหล้าแชมเปญใส่ปากทันที ขณะเดียวกัน พนักงานก็เทเหล้าแชมเปญในตู้ปลาใส่หัวของฉู่เฟิง เขาเปียกเหมือนลูกหมาตกน้ำ ส่วนน้ำร้อนในมือของฉันก็ยังคงถือค้างอยู่อย่างนั้น

ฉันไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำ สีชิงชวนช่วยฉันแก้แค้นก็เพียงพอแล้ว

ฉู่เฟิงโอดครวญ “คุณชายสี คุณชายสี ผมไม่กล้าแล้ว คุณเซียว ผมขอโทษ”

“เขากำลังพูดอะไรอยู่?” สีชิงชวนยักไหล่ “ขอโทษอะไรเหรอ?” เขาถามฉันด้วยใบหน้ามึนงง “เขาทำอะไรคุณเหรอ?”

สีชิงชวนรังแกเขาโดยการแสร้งทำเป็นไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ฉันไม่พูดอะไรทั้งนั้น เขามองน้ำร้อนในมือฉันแล้วก็เอาไปเทใส่ตัวฉู่เฟิง

ฉู่เฟิงร้องโหยหวนอย่างน่าเวทนา

“คุณ...” ฉันได้ยินเสียงร้องอันเจ็บปวดของฉู่เฟิงแล้วก็รู้สึกหนังศีรษะด้านชา “นั่นมันน้ำร้อนนะ”

“พวกเราอยู่ที่สูงขนาดนี้ และลมก็ออกจะแรง เขาจะโดนสักกี่หยดกัน?” สีชิงชวนคืนแก้วกระจกให้ฉัน จากนั้นก็ตบปรบแล้วเดินผ่านตรงหน้าฉันไป

ฉันจับรั้วแล้วมองลงไปด้านล่าง ฉู่เฟิงยังแช่อยู่ในน้ำทะเล เส้นผมเต็มไปด้วยเหล้าแชมเปญ ขนาดฉันอยู่บนเรือยังได้กลิ่นหอมของเหล้าเลย

เขาทำหน้าจะร้องไห้ “ดึงผมขึ้นไปหน่อย เร็วๆ!”

ผู้คนสบตากัน ไม่มีใครกล้าช่วยเขา มีเพียงบอดี้การ์ดของเขาตื่นตระหนกอยู่บนเรือ “คุณฉู่ไปทำให้คุณสีเคืองใจด้วยเรื่องอะไรครับ?”

เสี้ยววินาทีนี้ฉันรู้สึกว่าฉู่เฟิงเป็นคนโง่เง่าเต่าตุ่น เขารู้จักสีชิงชวนก็น่าจะรู้นิสัยใจคอของสีชิงชวน แต่กลับคิดจะลวนลามฉัน คาดว่าสีชิงชวนคงไม่ใส่ใจที่เขาแสดงพฤติกรรมเช่นนี้กับฉัน ทว่าสีชิงชวนไม่สบอารมณ์ตรงที่เขากระทำต่อหน้าสีชิงชวน มันเหมือนสีชิงชวนไม่มีตัวตน

สีชิงชวนไม่อนุญาต คนอื่นก็ไม่กล้าช่วยฉู่เฟิงขึ้นมา ฉันมองครู่หนึ่งแล้วลงจากดาดฟ้าบนเรือ

สีชิงชวนนั่งกินข้าวอยู่ในห้องส่วนตัว กำลังหั่นเนื้อสเต็กอย่างเชื่องช้า ฉันเห็นแล้วก็รู้สึกหิวขึ้นมา

ฉันเดินไปนั่งตรงข้ามเขา ก่อนจะชั่งใจดูว่าควรขอบคุณเขาดีไหม เพราะเมื่อกี้ถือว่าเขาช่วยฉันแก้แค้นสำเร็จแล้ว

ฉันยังไม่ทันปริปากพูด เขาก็ใช้ส้อมส่งเนื้อสเต็กเข้าปากตัวเอง จากนั้นก็ยกเปลือกตาขึ้นข้างหนึ่งมองฉัน นี่คือความสามารถเฉพาะตัวที่หาได้ยากของเขา ฉันไม่รู้ว่าเขาทำได้เช่นไร

“คุณโง่หรือเปล่า?”

“ห้ะ?” เขาเอ่ยปากพูดก็ปล่อยคำถามใส่ฉันเลย ฉันตอบสนองไม่ทัน “อะไรน่ะ?”

“ฉู่เฟิงเป็นคนเจ้าชู้ คุณควรตบหน้าเขาตั้งแต่แรกแล้ว”

“แต่ต่อมาฉันก็สั่งสอนเขาแล้วนะ ใช้เทคนิคป้องกันตัวที่เฉียวอี้สอนฉันจู่โจมเขา”

“ตอนที่เขาชวนคุยคุณก็ควรอัดเขาให้เละแล้ว ต่อไปเขาก็ไม่กล้าเข้าใกล้คุณแล้ว” เขายกน้ำผลไม้บนโต๊ะดื่มทีเดียวครึ่งแก้ว กลีบปากบางมีคราบน้ำผลไม้ติดไว้นิดๆ

ฉันส่งกระดาษทิชชู่ให้เขา เขากลับถือโอกาสจับมือของฉัน “เมื่อกี้ผมช่วยคุณแก้เผ็ด ตอนนี้ถึงตาคุณช่วยผมแล้ว”

“หา?” ฉันจ้องเขาอย่างมึนงง ทว่าได้กลิ่นคลุมเครือเลือนราง

“ช่วยผมเช็ดด้วย”

เหอะ แบบนี้ก็ง่ายหน่ะสิ ฉันเตรียมจะหยิบกระดาษทิชชู่ในมือเขา เขากลับใช้แรงดึงฉัน กึ่งกลางพวกเรายังมีโต๊ะขวางกั้น ฉันเกือบลื่นไถลไปแล้ว

ฉันสะดุ้งตกใจ “ท่านวีรบุรุษต้องการอะไรกันแน่?”

เขากระโดดเข้ามาหาฉันโดยที่ยังคงวางแขนข้างหนึ่งไว้บนโต๊ะ ฉันที่อยู่ในสภาวะสมองหยุดทำงาน เขาก็จับท้ายทอยฉันแล้วก้มหน้าหาฉัน เขาประกบริมฝีปากฉัน ฉันได้กลิ่นอันสดชื่นและเปรี้ยวหวานของน้ำส้มปั่นด้วย มันเหมือนลิปสติกกลิ่นหอมแบรนด์หนึ่ง

ฉันเบิกตากว้าง จู่ๆ หัวใจก็เต้นรัวแรงกะทันหัน สีชิงชวนกำลังหลับตา และขนตาก็กระพือนิดๆ คล้ายกับตุ๊กตาชายที่หล่อที่สุดในโลก

เขาปลุกเร้าตามร่างกายฉันจนหัวใจฉันเต้นถี่ขึ้นกว่าเดิม เกือบจะหายใจไม่ทัน

สีชิงชวนอยู่ใกล้ฉันมาก ใกล้จนฉันมองหน้าเขาไม่ชัด พวกเราเคย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)