ทำไมฉันต้องคลอดลูกให้เขาด้วย?
อีกครึ่งปีสัญญาแต่งงานของพวกเราก็จะสิ้นสุด แล้วตอนหย่าจะจัดการเรื่องลูกยังไง? แบ่งกันคนละครึ่งเหรอ?
พระอาทิตย์ยามเย็นคล้ายกับไข่สีส้มที่ค่อยๆ ลื่นลงจากท้องฟ้า ฉันไม่เคยดูพระอาทิตย์ตกดินบนเรือมาก่อน รู้สึกว่าพระอาทิตย์อยู่ใกล้แค่เอื้อม
นีน่าใส่ชุดราตรีที่สีชิงชวนเลือกให้ฉัน จากนั้นก็หมุนให้ฉันดู “สวยไหม?”
“สวย” เธอเป็นนางแบบใส่อะไรก็สวยไปหมด
“งั้นฉันจะใส่ชุดนี้แหละ ดูหรูมากเลย แล้วฉันจะทำทรงผมเหมือนคุณด้วย”
ทรงผมของฉันคืออะไร? ฉันแค่มวยผมแล้วประดับด้วยปิ่นปักผมหนึ่งอันเท่านั้นเอง เพราะเส้นผมของฉันนุ่มลื่น ดังนั้นจัดทรงไหนก็ได้ทั้งนั้น
ฉันส่งยิ้มให้เธอ จากนั้นก็ดูพระอาทิตย์ตกดินต่อ
เธอตื่นเต้นดีใจพอประมาณแล้วก็นั่งด้านข้างฉัน “คุณดูอะไรอยู่?”
“พระอาทิตย์ตกดิน” ฉันชี้ไปยังขอบฟ้า
“มีอะไรน่าดูเหรอ?”
“มันสวยดี”
“ท้องฟ้าของคนรวยมักจะสวยเสมอ” เธอกล่าว
ฉันหันไปมองเธอด้วยความตะลึงงัน “พระอาทิตย์ตกดินก็เป็นของคนรวยด้วยเหรอ?”
“ถูกต้อง คนจนๆ อย่างพวกเราจะมีโอกาสดูพระอาทิตย์ตกดินบนเรือสำราญเหรอ? ปกติเวลานี้ฉันจะต้องเบียดขึ้นรถเมล์กลับบ้าน และบนรถเมล์ก็มีแต่คนเหงื่อเหม็น เท้าเหม็น ใครจะมีเวลามองพระอาทิตย์ตกดินกันล่ะ?”
นีน่าพูดถูกบางส่วน ถึงแม้ฉันจะไม่เห็นด้วยกับคำพูดของเธอทั้งหมด แต่ข้อดีของฉันคือไม่ชอบโต้แย้งกับคนอื่น
ทุกคนล้วนมีวิถีชีวิตเป็นของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องโน้มน้าวจิตใจผู้อื่นให้เหมือนเราไปหมดซะทุกอย่าง
พระอาทิตย์หายลับตรงขอบฟ้า จากนั้นพระจันทร์ก็ขึ้นมาแทนที่ แสงไฟบนเรือแข่งกันส่องแสงสว่างแพรวพราย นีน่าชี้บริเวณที่ไกลออกไปแล้วพูดกับฉันด้วยหน้าระรื่น “คุณดูสิ มีเรือแล่นมาทางนี้แล้ว มาแล้ว”
ฉันมองไปยังนิ้วที่เธอชี้ ก่อนจะเห็นเรือสำราญจำนวนหลายลำกำลังมุ่งหน้ามารวมตัวกันที่เรือพวกเรา สาวๆ บนเรือลำอื่นก็กำลังกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจเช่นกัน
ทันใดนั้นอารมณ์สุนทรีย์ของฉันก็ดับวูบ ฉันคุยกับนีน่าว่า “ฉันเข้าไปเปลี่ยนเสื้อก่อน”
“ออ ออ อย่าแต่งสวยเกินไปนะ คุณมีคุณชายสีแล้ว เก็บความสวยไว้หน่อยนะ พวกเราจะได้มีโอกาสมากขึ้น”
ฉันกลับไปเปลี่ยนชุดที่ห้องนอน นีน่าเลือกชุดของฉันไป ฉันจึงเลือกชุดอื่นแบบลวกๆ จากนั้นก็แต่งหน้าเบาๆ
หลังจากที่ฉันเตรียมตัวเสร็จแล้ว ลูกเรือก็มาเคาะประตูห้องฉัน ก่อนจะส่งหน้ากากให้ฉันหนึ่งอัน
ฉันรับมันมา “อันนี้คืออะไรเหรอ?”
“คืนนี้จะมีงานเต้นรำด้วยโดยการอำพรางหน้าครับ”
เหอะ! คนรวยช่างสรรหาวิธีการเล่นเก่งจริงๆ รู้ว่าผู้หญิงที่มาที่นี่ส่วนมากจะเป็นสาวหน้าตาดี ดังนั้นจึงบดบังใบหน้า ดูแค่หุ่นอย่างเดียว
ได้ใส่หน้ากากก็ดี จะได้ไม่ต้องฝืนปั้นรอยยิ้มให้คนอื่นตลอด
ฉันพิรี้พิไรอยู่ในห้องครึ่งค่อนวัน กระทั่งสีชิงชวนโทรมาตามด้วยเสียงดุดัน “คุณนอนอยู่เหรอ?”
“เปล่า ฉันจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ”
เมื่อฉันเดินออกจากห้อง บนดาดฟ้าก็มีคนออกันเต็มไปหมด นีน่าทายแม่นมาก เรือของพวกเราใหญ่ คนในเรือลำอื่นจึงมารวมตัวกันที่นี่
คนส่วนมากต้องเดินไหล่ชนไหล่ ซึ่งทุกคนล้วนสวยด้วยชุดหรูและเครื่องประดับราคาแพง เพียงแต่ต้องสวมหน้ากาก ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร
ทว่าฉันกลับมองสีชิงชวนออกเพียงปราดเดียว เพราะเขาร่างสูงใหญ่ สวมชุดสีดำขลับ แม้เขาจะใส่หน้ากากด้วย แต่เหมือนเขาจะมีความสามารถชนิดหนึ่ง เป็นผู้แผ่ซ่านแสงประกายระยิบระยับได้มากที่สุดบนเรือ
สายตาของฉันมองตามเขาอย่างควบคุมไม่ได้ ทว่าเขาเหมือนจะมองไม่เห็นฉัน ฉันจึงหลบอยู่ตรงมุมซะเลย
จากนั้นงานเลี้ยงก็เริ่มต้นขึ้น ณ บัดนี้ พิธีกรพูดเปิดงานด้วยวลีเว่อร์วังอลังการงานสร้าง ทั้งยังมีคนแต่งกายเป็นตัวตลกเดินเทียวไปเทียวมาในหมู่คน สร้างสีสันภายในงานได้ในระดับหนึ่ง
ส่วนสาวๆ ทั้งหลายก็ออกตามล่าเหยื่อสุดความสามารถ
ฉันหลบอยู่ในมุมแล้วดื่มน้ำอุ่น เวลานี้มีผู้ชายคนหนึ่งเดินมายื่นมือให้ฉัน “เต้นรำกับผมหน่อยนะครับ?”
ฉันฟังออกว่าเป็นเสียงของฉู่เฟิง ร่างกายเขามีกลิ่นฉุนของยาหม่อง วันนี้เขาตากแดดจนหน้าไหม้เกรียม ตรงขอบหน้ากากยังเผยผิวหนังลอกออก
ฉันดึงหน้ากากลงแล้วให้เขามองหน้าฉัน เขาทำท่าราวกับเห็นผี เดินถอยหลังไปหลายก้าวจนเกือบสะดุดล้ม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...