ฉันไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน แน่นอนว่าฉันไม่รู้
“ตะโกน ช่วยด้วย”
“ถ้าอยู่ในพื้นที่แบบนี้เหมือนกับพวกเราสองคนในตอนนี้ ใครจะไปได้ยินเสียงร้องตะโกนของคุณกันล่ะ? ”
“งั้นจะให้ทำยังไง? ”
“คุณคิดว่าคุณจะโดนฆ่าไหม? ”
“โอกาสแบบนี้ถึงยังไงก็มีไม่มากนัก”
“แต่ในกรณีที่เกิดเรื่องขึ้นถึงขั้นถึงแก่ชีวิต” เขาบีบคางของฉัน “ผมจะสอนคุณท่าหนึ่ง”
ฉันเบิกตากว้างแสดงออกว่าตั้งใจฟัง
“ถ้าในอนาคตเจอสถานการณ์แบบนี้ มีคนมาทับคุณไว้แบบนี้ ถ้าเขาจูบคุณก็ให้คุณกัดปากเขาแรงๆ ด้วยแรงที่ใช้กัดเข้าไปที่ปากของเขา เขาจะเจ็บปวดและปล่อยคุณ ให้คุณฉวยโอกาสนี้เตะร่างกายครึ่งล่างของเขาแรงๆ และหาโอกาสหนีออกไป”
“ทดลองให้ดูหน่อย” ฉันเอ่ย
ศีรษะของเขาก้มลงมากดจูบที่ริมฝีปากของฉัน ฉันฉวยโอกาสกัดริมฝีปากของเขาอย่างแรง เขาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดและปล่อยฉัน กุมปากและกลิ้งลงไปกับพื้น
ฉันมองคนร่างสูงใหญ่อย่างเขาขดตัวกลมกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนพื้นแบบนี้แล้วรู้สึกชอบใจมาก ฉันหัวเราะออกมาเสียงดัง
เขาลุกขึ้นมานั่ง เอามือกุมปากจ้องมองมาที่ฉัน “เซียวเซิง...”
“ก็บอกอยู่ว่าเป็นการฝึกซ้อม ฉันยังไม่ได้เตะคุณเลย นับว่าใจดีมากแล้ว”
เขาปล่อยมือลง บนริมฝีปากที่ฉันกัดลงไปมันกลายเป็นริมฝีปากรูปทรงหยดน้ำ และเป็นสีแดงดูสวยมาก
“สีสวยมาก”
“งั้นเหรอ งั้นผมจะกัดคุณให้กลายเป็นแบบนี้เหมือนกัน” ขณะที่พูดเขาก็โถมตัวเข้ามาทับฉันไว้
ตอนที่สีชิงชวนปลดปล่อยนิสัยชั่วร้ายของเขาออกมา ฉันจะเอาอะไรไปสู้เขาได้ ฟันของเขาที่ขบกัดลงมาไม่ใช่การกัดลงมาง่ายๆ ทั่วๆ ไปแบบนั้นแล้ว
ริมฝีปากของเขากดจูบลงบนริมฝีปากของฉัน แต่เขากลับไม่ได้กัดฉัน
ริมฝีปากของเขานุ่มมาก นุ่มจนฉันคิดถึงดอกกล้วยไม้ที่คุณแม่ปลูกไว้ มีกล้วยไม้ชนิดหนึ่งที่กลีบดอกของมันจะมีรูปทรงเหมือนริมฝีปาก และก็นุ่มๆ แบบนี้เหมือนกัน
จูบของสีชิงชวนยาวนานมาก ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันจะสิ้นสุดลงตอนไหน
ทุกครั้งที่เขาจูบฉัน ฉันแทบจะหยุดหายใจ และรู้สึกหายใจไม่ออก
เพราะวันนี้ฉันไม่สะดวก ต่อมาเขาจึงปล่อยฉันไปนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียงและมองทะเลอันกว้างใหญ่ที่อยู่นอกหน้าต่าง
ฉันกอดเข่านั่งลงข้างๆ เขาเช่นกัน เขาถามฉัน “คุณหนาวไหม? ”
“ไม่หนาว” ที่นี่มันจะไปหนาวได้ยังไง ร้อนจะตายอยู่แล้ว
“เซียวเซิง” ตอนที่เสียงของเขาไม่ดุร้ายมันจะให้ความรู้สึกหงอยเหงาเศร้าซึมดูเนือยๆ
“อืม”
“ทำไมตอนนั้นคุณถึงแต่งงานกับผม? ”
“เอ่อ” ฉันพยายามคิดดู “เพราะคุณพ่อ”
“พ่อคุณสั่งให้ทำอะไรคุณก็จะทำอันนั้นเหรอ? ” เขาหันมามองฉัน “ไม่ใช่เพราะเห็นแก่รูปร่างหน้าตาของผมเหรอ? ”
“ฮ่า” เขาทำให้ฉันขำเกือบตาย “ตอนนั้นฉันยังไม่รู้เลยว่าคุณหน้าตาเป็นยังไง”
“คุณไม่ได้เล่นอินเทอร์เน็ตเหรอ? ผมดังมากนะ”
“คุณไม่ใช่ดาราหนังนี่ จะบอกว่าดังไม่ดังได้ก็ต้องรอให้ถึงงานแต่งงานในวันรุ่งขึ้นก่อนถึงจะรู้ แต่หนึ่งวันก่อนที่จะแต่งงานฉันเข้าไปค้นหาคุณดูในอินเทอร์เน็ต ในรายชื่ออันดับคนที่ชาวเน็ตเลือกให้เป็นคนที่ชาวเน็ตอยากมีลิงกับคนคนนั้นมากที่สุด อันดับที่หนึ่งคือคุณ”
“มีลิงคืออะไร? ”
“แม้แต่คำนี้คุณก็ไม่รู้เหรอ ก็มีลูกไง”
“อ้อ” เขาดูพอใจกับผลลัพธ์นี้มาก “ผมมีเสน่ห์มากเลยนะเนี่ย! ”
“นี่เป็นการบอกว่าคุณเป็นม้าในใจของชาวเน็ตผู้หญิงจำนวนมาก”
เขามองมาที่ฉัน นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะไม่โกรธ
“งั้นวันนั้นที่แต่งงานกับผม พอเห็นผมแล้ว คุณก็คงตกใจทันทีสินะ! ”
เขาช่างหลงตัวเองจริงๆ แต่ในตอนนั้นฉันก็ตกใจจริงๆ ฉันคิดว่ารูปภาพดูดีพวกนั้นที่อยู่บนอินเทอร์เน็ตเป็นรูปที่แต่งและคัดกรองออกมาแล้ว ใครจะไปรู้ว่าตัวจริงจะน่าตกตะลึงมากขนาดนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...