รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว นิยาย บท 127

“ฉิงเหย่ มาทำความรู้จักกับคุณอาชังเซิ่งสิ และนี่ก็อาหญิง ส่วนคนข้างๆ นี้คือเหลยหย่า ลูกสาวคนเดียวของคุณอาทั้งสอง ตอนเด็กๆ พวกลูกเคยเจอกันแล้ว” พ่อของเขาพูดพลางหัวเราะ เขามองดูเด็กสาวที่นั่งอยู่ตรงข้ามด้วยสายตารักใคร่เอ็นดู ราวกับกำลังมองลูกสะใภ้ของตัวเอง

“ใช่แล้ว! ตอนงานครบหนึ่งเดือนของเหลยหย่า พวกคุณสองคนก็พาฉิงเหย่มาด้วย ดูเหมือนฉิงเหย่เพิ่งจะสองขวบเองมั้งคะ! ตอนนั้นพวกเรายังมีความคิดจะให้เด็กทั้งสองหมั้นหมายกันไว้เลย” ผู้หญิงหน้าตาสะสวยที่นั่งตรงข้ามเอ่ยขึ้น

“ก็นี่ไงล่ะคะ! ถึงวัยอันควรพอดีเลย” รอยยิ้มปรากฏในดวงตาของคุณนายจ้าน เธอพินิจมองดูหันเหลยหย่าที่อยู่ตรงข้าม ไม่ว่าตรงไหน เธอก็รู้สึกพอใจไปหมด

นี่คือหญิงสาวที่เธอและสามีเลือกสรรมาอย่างดีสำหรับตำแหน่งสะใภ้ พ่อแม่ของเธอเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งมีความร่วมมือกับโรงแรมของพวกเขาอยู่มากมาย ในอนาคตเมื่อลูกชายสืบทอดกิจการก็คงต้องการการสนับสนุนของพวกเขา ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือการเกี่ยวดอง เมื่อสองครอบครัวรวมกันเป็นหนึ่ง ทรัพย์สินของวงศ์ตระกูลก็จะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ

และลูกชายเขาก็ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องธุรกิจในอนาคตว่าจะไม่มีคนให้การสนับสนุน ในเมื่อเขามีพ่อตาที่มีอิทธิพลและความสามารถอยู่ทั้งคน

พ่อแม่ของหันเหลยหย่าก็มีความคิดแบบเดียวกัน เมื่อสองครอบครัวเกี่ยวดองกันและร่วมมือกันอย่างแข็งแกร่ง ก็ไม่ต้องกังวลว่าตระกูลของพวกเขาจะไม่มีผู้สืบทอด พวกเขาพึงพอใจในตัวจ้านฉิงเหย่มาก

“ฉิงเหย่ ไม่เจอกันนานเลยนะ” หันเหลยหย่าทักทายด้วยความดีใจ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาพบกัน ตอนที่อยู่ต่างประเทศ ทั้งสองต่างก็เป็นสมาชิกชมรมซูเปอร์คาร์เหมือนกัน

จ้านฉิงเหย่คือรักแรกพบของหันเหลยหย่า ตั้งแต่กลับมาจากต่างประเทศ สิ่งที่ทำให้เธอดีใจที่สุด ก็คือการที่พ่อแม่พวกเขาตั้งใจอยากจะให้พวกเขาได้เป็นคู่กัน

“เหลยหย่า ไม่เจอกันนานเลย คุณอา คุณอาหญิง ขอบคุณที่มาร่วมงานเลี้ยงของคุณยายนะครับ” จ้านฉิงเหย่กล่าวอย่างมีมารยาท

“เป็นเกียรติอย่างมากสำหรับพวกเราที่ได้มาร่วมงานเลี้ยงในคืนนี้” สองสามีภรรยาตระกูลหันตั้งใจมาร่วมงานในคืนนี้เป็นพิเศษ ก็เพื่อจะให้สองหนุ่มสาวได้มาพบหน้ากัน

“ฉิงเหย่ พาเหลยหย่าไปที่ห้องอาหารหาอะไรทานสิลูก พวกพ่อแม่จะรำลึกความหลังกัน” คุณนายจ้านขยิบตาให้ลูกชาย

ในใจของจ้านฉิงเหย่รู้สึกจนใจ จึงตอบไปอย่างมีมารยาท “ได้ครับ แม่”

จ้านฉิงเหย่พาหันเหลยหย่าออกมาที่โถงใหญ่ แล้วนำเธอตรงไปยังห้องอาหาร เมื่อหันเหลยหย่าหยิบอาหารเรียบร้อยแล้ว จ้านฉิงเหย่ก็ถือโอกาสปลีกตัวออกมา “เหลยหย่า ฉันมีธุระต้องทำ เธอค่อยๆ ทานไปนะ”

หันเหลยหย่ามองเขาด้วยความผิดหวังทันที วันนี้เธอลงทุนแต่งตัวอยู่ตั้งนาน แต่จ้านฉิงเหย่แทบจะไม่ได้มองเธอเลยด้วยซ้ำ ยิ่งตอกย้ำให้เธอรู้สึกเศร้าใจ

แต่เมื่อเธอนึกถึงเรื่องที่พ่อแม่ของคนทั้งสองอยากจะเกี่ยวดองกัน เธอก็ไม่ร้อนรนอีกต่อไป ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว เธอก็จะได้กลายเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลจ้านในสักวัน

“คนเมื่อกี้นี้คือหลานชายของนายหญิงใหญ่สีใช่ไหม เขาดูดีจริงๆ”

“ใช่แล้ว! ได้ยินว่าคืนนี้ ทายาทตระกูลดังหลายต่อหลายคนต่างรุมล้อมคุณชายตระกูลสีทั้งสอง! ไม่รู้ว่าหญิงสาวคนไหนจะมีวาสนาได้เข้ามาเป็นสะใภ้ของตระกูลนี้กันนะ”

หันเหลยหย่าบังเอิญได้ยินการสนทนาของคุณนายที่อยู่ด้านหลัง มุมปากของเธอยกยิ้มอย่างมั่นใจ เธอคือหญิงสาวผู้โชคดีคนนั้นไงล่ะ

ส่วนผู้หญิงคนอื่นๆ น่ะหรือ ต่อให้ทุ่มหมดหน้าตัก ก็อย่าได้คิดฝันที่จะมาแย่งจ้านฉิงเหย่จากเธอไปได้เลย

เวลานี้ จ้านฉิงเหย่มาที่ห้องควบคุมเสียง พิธีกรก็อยู่ด้วยพอดี

“ประเดี๋ยวผมจะขอแต่งงาน รบกวนพวกคุณช่วยผมหน่อยสิ” จ้านฉิงเหย่บอกกับพวกเขา

“เมื่อไหร่ครับ ผมจะรีบเตรียมความพร้อม” ผู้ควบคุมเครื่องเสียงถามด้วยความอยากรู้

“อีกสิบนาทีครับ รบกวนพี่หลี่ประกาศชื่อถังจือซย่าให้เธอขึ้นมาบนเวที หลังจากนั้นเตรียมแสงสีเสียงไว้ให้พร้อม แล้วแฟลชไดร์ฟนี้มีคลิปวิดีโอที่ผมทำขึ้น พวกคุณก็ฉายไปที่จอได้เลย ขอดนตรีที่โรแมนติกที่สุดสำหรับการขอแต่งงานด้วยนะครับ”

“เรื่องสำคัญของคุณชายจ้าน วางใจมอบให้เป็นหน้าที่ของพวกเราเถอะ!”

เมื่อจ้านฉิงเหย่จัดแจงสั่งการเรียบร้อยแล้ว เขาก็เดินออกมาด้วยความพอใจ อีกสิบนาที การขอแต่งงานของเขาก็จะเริ่มขึ้น จ้านฉิงเหย่หยิบแหวนเพชรออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูทของเขา แม้ว่ามันจะไม่ได้ถูกวางอยู่ในกล่อง แต่เพชรที่ส่องประกายระยิบระยับบนแหวนวงนั้นมีราคาสูงลิบลิ่วเลยทีเดียว

ถังจือซย่าในขณะนี้ปลีกตัวจากนายหญิงใหญ่สีแล้ว แต่นายหญิงใหญ่สียังไม่อนุญาตให้เธอกลับและขอให้เธออยู่จนล่วงเลยเวลาสามทุ่ม

ถังจือซย่าเห็นว่านายหญิงใหญ่เอ่ยปากแล้ว งั้นเธอก็รอจนกว่าสามทุ่มแล้วค่อยกลับก็แล้วกัน!

เมื่อถังจือซย่าเดินมาถึงบริเวณที่ค่อนข้างสงบ ทันใดนั้นก็มีเสียงเย้ยหยันของผู้หญิงดังมาจากด้านหลังของเธอ “ถังจือซย่า ตอนนั้นที่แม่ของเธอตายไปก็เพราะหน้าที่การงานเท่านั้น เธอยังมีหน้าให้ตระกูลสีตอบแทนบุญคุณอีกหรือ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว