เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนกและต่อสายหาแม่ของเธอ เธอรีบร้อนพูดอย่างกังวลเมื่ออีกฝ่ายรับสาย “แม่คะ รีบให้คุณอาจ้านมาดูเร็วเข้าค่ะ จ้านฉิงเหย่กำลังขอผู้หญิงคนอื่นแต่งงานอยู่ที่โถงใหญ่ค่ะ”
เธอร้อนใจจนแทบจะแย่แล้ว นี่มันเป็นไปได้อย่างไรกัน
ผู้หญิงที่จ้านฉิงเหย่ขอแต่งงานเป็นใคร ฐานะอะไร มาจากตระกูลไหน
ที่บันไดชั้นสอง ดวงตาเย็นเฉียบของสีจิ่วเฉินพุ่งตรงไปยังหญิงสาวบนเวที เขาหวังว่าเธอจะปฏิเสธเสียงดังใส่ญาติผู้น้องของเขา
เพราะเขาไม่อนุญาตให้เธอแต่งงานกับใครอย่างเด็ดขาด
เวลานี้ ความต้องการอันแข็งกร้าวผุดขึ้นในใจ เขาต้องการผู้หญิงคนนี้
ไม่ว่าจะเป็นเพราะคำสั่งของคุณย่า หรือจะเป็นเพราะบุญคุณที่แม่ของเธอช่วยชีวิตเขา เขาต้องการเธอทั้งนั้น
ความลังเลที่อยู่ในใจของเขามาตลอด บัดนี้ มันชัดเจนและแน่วแน่
ถังจือซย่าเป็นของเขา
และในเวลานี้เอง นายหญิงใหญ่แห่งตระกูลสีที่กำลังเดินออกมาจากห้องรับรองพิเศษ ก็ได้เห็นภาพการขอแต่งงานบนเวทีเข้าพอดี ดวงตาของเธอไม่ค่อยดีนัก เธอจึงรีบถามผู้คนรอบๆ ตัวเธอ
“บนเวที ใครกำลังขอแต่งงานหรือ!”
“นายหญิงใหญ่คะ เป็นจ้านฉิงเหย่หลานชายของท่านกำลังขอหญิงสาวคนหนึ่งแต่งงานค่ะ”
“หา! หญิงสาวบ้านไหนกัน” นายหญิงใหญ่สีหรี่ตามองดู เธอรู้สึกว่าหญิงสาวที่อยู่บนเวทีดูคุ้นตา เหมือนจะเป็น...จือซย่า...ใช่ไหมนั่น
คนข้างๆ บอกเธอเสียงดัง “ผู้หญิงที่หลานชายของท่านขอแต่งงานคือคุณถังจือซย่าค่ะ”
“อะไรนะ?” นายหญิงใหญ่สีตกตะลึง “จือซย่าหรือ?”
นี่มันเกิดอะไรขึ้น! คนที่เธอต้องการให้ถังจือซย่าแต่งงานด้วยก็คือสีจิ่วเฉินหลานชายอีกคนของเธอต่างหาก
ทำไมคนที่ขอแต่งงานกลับกลายเป็นฉิงเหย่ล่ะ?
ท่ามกลางฝูงชน ซ่งซานมองไปที่ถังจือซย่าบนเวทีอย่างไม่อยากจะเชื่อ เธอถูกขอแต่งงานจริงๆ หรือ เมื่อสักครู่เธอยังไม่รู้ว่าฝ่ายชายเป็นใคร แต่ในตอนนี้ เธอได้ยินจากคนข้างๆ ว่าเขาเป็นหลานชายของนายหญิงใหญ่ตระกูลสี จ้านฉิงเหย่ คุณชายใหญ่แห่งตระกูลจ้าน
จะเป็นไปได้อย่างไรกัน ถังจือซย่าเอาเสน่ห์ที่ไหนมาทำให้คุณชายใหญ่ตระกูลจ้านขอแต่งงานได้? ถึงแม้จะไม่ใช่สีจิ่วเฉิน แต่ชายหนุ่มที่จะแต่งงานกับเธอก็ร่ำรวยและเพอร์เฟกต์ขนาดนี้ หนำซ้ำยังเป็นหลานอีกคนของนายหญิงใหญ่สีอีกด้วย
บนเวที ถังจือซย่าใบหน้าแดงก่ำไปหมดแล้ว เธออายจนอยากจะมุดแผ่นดินหนี
การกระทำของจ้านฉิงเหย่ทำให้เธอลำบากใจเหลือเกิน หากเธอตอบปฏิเสธต่อหน้าผู้คน ก็จะเป็นการทำร้ายจิตใจจ้านฉิงเหย่ และอาจจะทำให้เขากลายเป็นตัวตลกต่อหน้าแขกเหรื่อ แน่นอนว่าเธอทำแบบนั้นไม่ได้
แต่ครั้นจะตอบรับ! เธอไม่ได้เตรียมใจมาก่อนเลย! เธอจะตอบตกลงส่งเดชได้อย่างไร แบบนี้จะไม่เป็นการรับผิดชอบต่อจ้านฉิงเหย่เลย
“ฉิงเหย่ พวกเราลงจากเวทีไปค่อยคุยกันดีไหม” ถังจือซย่าโน้มตัวลงมาพูดกับจ้านฉิงเหย่
แต่จ้านฉิงเหย่ในวันนี้ไม่ได้เกลี้ยกล่อมง่ายๆ ดวงตาของเขามองลึกไปที่เธอ แล้วพูดขอเธอแต่งงานผ่านไมโครโฟนอีกครั้ง
“จือซย่า แต่งงานกับผมเถอะนะ! ผมจะดูแลคุณไปทั้งชีวิต ผมจะทำให้คุณมีความสุขตลอดไป”
เป็นความปรารถนาที่แท้จริงในใจของจ้านฉิงเหย่! เขารู้ดีว่าการใช้วิธีนี้บีบบังคับให้เธอตอบตกลงจะทำให้เธอลำบากใจ แต่เขาไม่อยากจะรออีกต่อไปแล้ว เขาต้องการมอบสถานะให้เธอ สถานะภรรยาของเขา
ดูแลเธอและเฉินเฉิน ลูกชายของเธอ
“ฉิงเหย่!” ถังจือซย่าส่งสายตาบอกใบ้ให้เขาลงเวทีไปแล้วค่อยคุยกันอีกที อย่าให้คนอื่นจ้องมองอีกเลย
แต่จ้านฉิงเหย่กลับไม่ยอมลุกขึ้น เขายังคงคุกเข่าและเงยหน้าขึ้นมองเธอ และจับแหวนเพชรในมืออย่างมั่นคงยื่นให้เธอ
“ตอบรับเขาไปเถอะ!” ไม่รู้ผู้ใดตะโกนขึ้นมาจากด้านล่างเวที
ทันใดนั้นก็มีเสียงปรบมือดังสนั่น และเสียงเรียกร้องจากผู้ชมก็ดังขึ้น “สาวน้อย ตอบรับเขาไปเถอะ!”
“อย่าลังเลอีกเลย รีบตอบตกลงเลยสิ!”
ภายใต้แรงเชียร์จากฝูงชน ถังจือซย่ารู้สึกอึดอัดใจ หน้าก็แดงไปถึงหูแล้ว เธอมองแหวนเพชรในมือของจ้านฉิงเหย่พลางคิดในใจ หากว่ารับแล้วจะสามารถทำให้จ้านฉิงเหย่ลุกขึ้นแล้วยอมลงจากเวทีหรือไม่
ในเวลานี้ เธอเองก็มองเห็นความรู้สึกที่แท้จริงในดวงตาของจ้านฉิงเหย่ ในระยะเวลาอันสั้นนี้ เธอไม่รู้ว่าจะรับมือกับความรู้สึกนี้อย่างไรดี เธอเม้มปากและถอนหายใจออกมา เธอยื่นมือไปหยิบแหวนเพชรของจ้านฉิงเหย่
วินาทีถัดมา จ้านฉิงเหย่ยืนขึ้นอย่างมีความสุข เขาอ้าแขนออกและกอดเธอแน่น ถังจือซย่าถูกจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัว และวินาทีต่อมา เขาก็จูบเข้าที่ริมฝีปากแดงของเธออย่างรวดเร็ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว