“ถังจือซย่าใกล้จะหมั้นแล้ว หลังจากหมั้นหมายกันแล้ว สีจิ่วเฉินก็สามารถที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องกับบริษัทของประธานถังในฐานะลูกเขย แค่เขาส่งคนมาที่บริษัทหน่อย ก็สามารถที่จะดูแลจัดการได้ดีแล้ว ถึงเวลานั้น ฉันก็จะถูกไล่ออกจากชั้นบริหารได้ตลอดเวลา” คังเฮ่าเซวียนพูดกดดันหลี่เจี๋ย
หลี่เจี๋ยเองก็แอบร้อนรนใจเหมือนกัน “ถ้าเป็นแบบนี้แล้ว จะต้องลงมือก่อนที่ถังจือซย่าจะหมั้น”
“ใช่แล้ว หากประธานถังเสียชีวิต พินัยกรรมของเขาก็จะถูกประกาศออกมา คุณกับชิงชิงถึงจะรักษาส่วนที่พวกคุณควรจะได้รับได้ ถึงเวลานั้น ต่อให้สีจิ่วเฉินจะเข้ามาเกี่ยวข้องกับบริษัท พวกคุณก็จะสามารถอยู่ในตำแหน่งหุ้นส่วนได้อย่างมั่นคง”
นัยน์ตาของหลี่เจี๋ยนั้นมีความอำมหิตแวบผ่าน เพื่ออนาคตของตนเองกับลูกแล้ว ดูเหมือนว่าเธอจะต้องลงมือจริงๆ แล้ว
ณ งานเลี้ยงครอบครัวของตระกูลสี ญาติสนิทของนายหญิงใหญ่สีมาถึงกันหมดแล้ว จัดงานออกเป็นสามโต๊ะ บรรยากาศครึกครื้นกันน่าดูเลย
ถังจวิ้นเองก็มาถึงแล้วเช่นกัน เขาเป็นคนที่สนิทกับคนอื่นได้ง่ายอยู่แล้ว บวกกับเขาเป็นพ่อตาในอนาคตของสีจิ่วเฉิน ก็เลยได้รับความเคารพจากคนอื่นๆ เช่นกัน
“พ่อคะ ดื่มน้อยๆ หน่อยค่ะ” ถังจือซย่าเดินมาจากอีกโต๊ะ เพราะรู้ว่าตอนนี้พ่อไม่ควรที่จะดื่มเหล้า
วันนี้ถังจวิ้นดีใจอย่างมาก ดังนั้น เขาก็เลยดื่มอย่างไม่รู้ตัว พอได้ยินลูกสาวพูดแบบนี้ เขาเองก็เอาแก้วไปรินชามาดื่มแทนอย่างรู้ตัว “โอเคๆ ไม่ดื่มแล้ว”
ถังอวี่เฉินนั่งอยู่ข้างๆ นายหญิงใหญ่สี ผู้หลักผู้ใหญ่ที่มองดูสีจิ่วเฉินเติบโตมาก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเด็กคนนี้เหมือนกับสีจิ่วเฉินตอนเด็กมากจริงๆ
แต่ถังอวี่เฉินไม่ใช่ลูกหลานของตระกูลสี ทุกคนก็เลยหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงเรื่องนี้กัน
โชคชะตาในอนาคตของตระกูลสีจะเป็นยังไง พวกเขาก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปพูดถึง เครือญาติของตระกูลสีนั้นแน่นแฟ้นกลมเกลียว หากใครคนใดคนหนึ่งมีความเจริญทุกคนก็จะเจริญตามไปด้วยกัน แต่ถ้าใครที่ถูกทำลายให้พ่ายแพ้ คนอื่นๆ ก็จะล่มไปตามๆ กัน
หลังจากที่กินข้าวเสร็จ นายหญิงใหญ่สีก็ชวนนายหญิงคนอื่นๆ มาพูดคุยเล่นกัน ถังจวิ้นเองก็ได้รู้จักผู้ใหญ่ที่มีอำนาจในตระกูลสี นั่งพูดคุยกันทุกเรื่องราวตั้งแต่ห้ายันดิน อดีตและปัจจุบัน
ส่วนวัยรุ่นจึงหาเรื่องทำกันเอง ส่วนถังจือซย่าและสีจิ่วเฉินก็ออกมาเดินย่อยอาหารกันข้างนอก
บนท้องฟ้านั้นมีพระจันทร์ส่องแสงสว่าง แม้จะหนาวเหน็บ แต่อากาศก็ดีมากเลยทีเดียว
ถังจือซย่ารู้สึกสดชื่นอย่างมาก ใกล้วันหมั้นเข้ามาอีกวันแล้ว
“นั่งพักหน่อยเถอะ! ไม่ต้องเดินแล้ว ระวังขาของคุณด้วย” ถังจือซย่าเลือกเก้าอี้แล้วนั่งลง สีจิ่วเฉินเองก็นั่งตาม เขาปลดกระดุมเสื้อสูทออก จากนั้นก็โอบเธอไว้ในอกของเขา ถังจือซย่าพิงอยู่บนอกของเขาอย่างสบายใจแล้วก็ชมวิวในสวนภายใต้แสงจันทร์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว
สรุปเรื่องไม่ไปต่อแล้วเหรอค่ะ ติดตามมาตลอดหายไปอีกรอบ เสียดายจังค่ะ กำลังสนุกเลย ด้วยเพราะเหตุผลอะไร ยังไงก็ขอขอบคุณค่ะที่ทำให้การอ่านมีความสุขกับตัวละครที่สร้างจินตนาการให้นะ่ค่ะ...
เรืองหยุดชะงักอีกรอบแล้ว ผู้แต่งไม่สบายหรือเปล่าค่ะ หรือติดอะไรยังก็ขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ รอการกลับมาของนิยายเรื่องนี้อยู่ตลอดค่ะ...
หายไป 3 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน.....
หายไป 2 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน...
สนุกมากค่ะ อยากให้ลงสักวันล่ะ 20 ตอนเลยค่ะ สนุกมากๆๆและมีลุ้นด้วยว่าจะยังไงต่อ ต่อไปจะเป็นคู่ของท่านรองปะค่ะ รองประธาน น่ะจะมีนะ555...
น่าสงสารนางเอกจัง และสงสารพระเอกที่จะบอกคนที่ตนเองรักยังไง ว่าคู่หมั้นตัวเองเป้นญาติกัน...
ติดตามต่อค่ะ สนุกมากๆๆๆ...
ลุ้นเนี่ยเฟย จะได้สมหวัง กับคุณหนูอันไหมน๊า แต่ลุ่นอีกคู่ค่ะ รอติดตามต่อค่ะ เป็นกำลังใจทุกตอนสนุกมากค่ะ...
ตายล่ะ ใช่แบบเดียวกับ ที่เป็นแฟลตไดร์ปะล่ะ ถ้าใช้ก็ต้องหาอีก555 เป็นกำลังใจให้ค่ะรอติดตามตอนต่อไปสนุกมาก ๆๆๆ...
เกือบความจำกลับมาแล้ว ความรู้สึกคนรักกัน ต้องมีบ้าง ความรู้สึก ของอาเฟยเกิดขึ้น...