เยี่ยวานวานเปิดประตูห้อง และมีอวี๋เส่าสยงตามเข้ามาข้างหลัง เยี่ยวานวานพูดกับคู่สามีภรรยาตระกูลอวี๋ที่อยู่ตรงข้ามว่า “คุณอาคุณน้า ขอโทษด้วยนะคะ หนูหมั้นกับเส่าสยงไม่ได้ โปรดยกโทษให้หนูด้วยนะคะ” หลังจากพูดจบ เธอก็พูดกับพ่อแม่ว่า “พ่อ แม่ เรากลับบ้านกันเถอะ!”
“นี่! วานวาน เกิดอะไรขึ้น คุยกันดีๆ ก่อนสิ ทำไมถึงไม่หมั้นแล้วล่ะ”
เยี่ยกั๋วเหาและภรรยามองหน้ากัน พวกเขาเองก็ดูจุดประสงค์ที่แท้จริงในการหมั้นครั้งนี้ของตระกูลอวี๋ออก ตอนนี้ลูกสาวยกเลิกการหมั้นไปอย่างไม่ลังเลแล้ว พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องรับมือกับตระกูลอวี๋อีกต่อไป
เยี่ยกั๋วเหานั่งอยู่บนวีลแชร์ เยี่ยวานวานจึงเดินเข้ามาเข็นเขา คุณนายเยี่ยพูดแสดงความเกรงใจไปสองสามประโยคแล้วทั้งครอบครัวก็เดินออกมา
แต่เจียนจือเพ่ยที่ยืนอยู่ตรงทางเดินยังไม่เดินออกไป ตอนนี้ดูเหมือนเขาจะนึกออกแล้วว่าตอนที่เขาเข้าซื้อบริษัทของเยี่ยกั๋วเหาครั้งที่แล้ว เขาสร้างหนี้หนึ่งพันล้านให้กับเยี่ยกั๋วเหาด้วยตัวเขาเอง
เยี่ยวานวานพูดกับเจียนจือเพ่ยว่า “ฉันจะไปส่งพ่อกลับโรงพยาบาล ไปก่อนนะคะ”
เยี่ยกั๋วเหารู้สึกไม่พอใจกับเรื่องที่เจียนจือเพ่ยเข้าซื้อบริษัทของเขาด้วยเจตนาที่ไม่ดี เขาเหลือบมองเจียนจือเพ่ยแค่แวบเดียวแล้วก็ปล่อยให้ลูกสาวเข็นเขาออกไป
เจียนจือเพ่ยมองตามหลังครอบครัวที่มีสมาชิกสามคนเดินเข้าไปในลิฟต์ จากนั้นเขาถึงได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรหาเบอร์เบอร์หนึ่ง “จัดการเรื่องหนึ่งให้ฉันที”
อวี๋เส่าสยงปัดชามและตะเกียบบนโต๊ะอาหาร แล้วพูดด้วยความขุ่นเคืองว่า “ไม่คิดเลยว่าคนในตระกูลเยี่ยจะกล้าดูถูกเรา ผมจะรอดูเยี่ยกั๋วเหาติดคุก!”
“ฮึ! นึกว่าจะทำให้เยี่ยกั๋วเหาเอาที่ดินมาเป็นสินเดิมแล้วมอบให้พวกเราได้ซะอีก ไม่คิดเลยว่า เยี่ยวานวานจะไม่โง่” พ่ออวี๋พูดด้วยความหงุดหงิดเป็นอย่างมาก
เยี่ยวานวานประคองพ่อขึ้นรถ แล้วพวกเขาก็กลับโรงพยาบาล เธอนั่งอยู่บนที่นั่งข้างคนขับ ในหัวอดไม่ได้ที่จะนึกถึงจูบนั้นที่เจียนจือเพ่ยประทับลงบนริมฝีปากของเธอเมื่อครู่ ตอนนี้เธอก็ยังไม่อยากเชื่อเลยว่าผู้ชายคนนี้จูบเธอ
“พ่อ แม่ เราขายทรัพย์สินทั้งหมดในมือที่ขายได้เพื่อใช้หนี้กันเถอะ ส่วนหนี้ที่เหลือ หลังจากนี้หนูจะทำงานใช้หนี้ให้เอง” เยี่ยวานวานพูดกับพ่อแม่ที่นั่งอยู่บนที่นั่งด้านหลัง
“ก็คงทำได้แค่วิธีนี้แหละ” เยี่ยกั๋วเหาถอนหายใจ หนี้ก้อนนี้สร้างความกดดันให้กับชีวิตที่เหลือของลูกสาว
และในขณะนี้ โทรศัพท์ของเยี่ยกั๋วเหาก็ดังขึ้น เขาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสาย ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายพูดอะไร เขาถึงได้ตื่นเต้นจนถามโพล่งออกมาว่า “จริงเหรอครับ หนี้ของผมถูกชำระหมดแล้วเหรอ”
คุณนายเยี่ยและเยี่ยวานวานมองเขาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ แววตาของเยี่ยกั๋วเหาแสดงความรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นออกมา “ครับ โอเคครับ ขอบคุณครับ วันจันทร์ผมจะไปเอาใบรับรองการชำระบัญชีแน่นอนครับ”
หลังจากวางสาย เยี่ยกั๋วเหาก็พูดกับภรรยาและลูกสาวว่า “เมื่อกี้ธนาคารโทรมาบอกว่าหนี้ของพ่อถูกชำระหมดแล้ว”
เยี่ยกั๋วเหาและภรรยามองหน้ากัน ลูกสาวจะจัดการยังไง หรือว่าคุณเจียนชอบลูกสาวของพวกเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว
ค่าต่อการอ่านหน้าต่อไปแพงจังค่ะ...
มาแล้ว พึ่งเข้ามาดู...
รอๆๆคะ...
สรุปเรื่องไม่ไปต่อแล้วเหรอค่ะ ติดตามมาตลอดหายไปอีกรอบ เสียดายจังค่ะ กำลังสนุกเลย ด้วยเพราะเหตุผลอะไร ยังไงก็ขอขอบคุณค่ะที่ทำให้การอ่านมีความสุขกับตัวละครที่สร้างจินตนาการให้นะ่ค่ะ...
เรืองหยุดชะงักอีกรอบแล้ว ผู้แต่งไม่สบายหรือเปล่าค่ะ หรือติดอะไรยังก็ขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ รอการกลับมาของนิยายเรื่องนี้อยู่ตลอดค่ะ...
หายไป 3 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน.....
หายไป 2 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน...
สนุกมากค่ะ อยากให้ลงสักวันล่ะ 20 ตอนเลยค่ะ สนุกมากๆๆและมีลุ้นด้วยว่าจะยังไงต่อ ต่อไปจะเป็นคู่ของท่านรองปะค่ะ รองประธาน น่ะจะมีนะ555...
น่าสงสารนางเอกจัง และสงสารพระเอกที่จะบอกคนที่ตนเองรักยังไง ว่าคู่หมั้นตัวเองเป้นญาติกัน...
ติดตามต่อค่ะ สนุกมากๆๆๆ...