คนในกระจกพูดอย่างมีความสุข "เจ้าค่ะ บ่าวจำได้! บ่าวไม่รู้ว่าจะขอบคุณพระชายาอย่างไร จากนี้ไป บ่าวจะปรนนิบัติรับใช้ท่านเอง หวังว่าพระชายาจะไม่รังเกียจบ่าวรับใช้ผู้นี้นะเจ้าคะ”
ขณะที่แม่นมเติ้งพูด นางก็หยิบปิ่นปักผมขึ้นมาปักบนหัวให้นาง
ดวงตาของลั่วชิงยวนเย็นยะเยือก นางจับมือแม่นม และยืนขึ้นเผชิญหน้ากับนาง
แม่นมเติ้งตกใจ และมองนางด้วยความงุนงง "พระชายา เป็นอะไรไปหรือเจ้าคะ?"
เมื่อลั่วชิงยวนออกแรง แม่นมเติ้งเจ็บจนต้องปล่อยมือออก และปิ่นก็ร่วงลงกับพื้น
อีกฝ่ายก็สัมผัสได้ความหมายของลั่วชิงยวน ทันใดนั้นก็มีแสงแล่นผ่านม่านตา นางรีบคว้าปิ่นที่เหลือบนโต๊ะอีกครั้ง และพุ่งไปหาลั่วชิงยวนอย่างโหดเหี้ยม
ลั่วชิงยวนไม่สามารถทนแรงนั้นได้ ร่างนางถูกเหวี่ยงลงกับพื้น ปิ่นเงางามที่ลอยอยู่เหนือดวงตาของนางราวกับใบมีดคมกริบ
แม่นมเติ้งกัดฟัน พยายามแทงปิ่นลงไปที่ดวงตาของนางอย่างเอาเป็นเอาตาย
สิ่งที่นักปราชญ์ด้านฮวงจุ้ยขาดมิได้เลยก็คือ ดวงตาที่เฉียบแหลมคู่นี้ ลั่วชิงยวนมองไปที่แสงสีเขียวในดวงตาของแม่นมเติ้ง และก็ยิ่งแน่ใจว่ากำลังเจอกับอะไร!
“เจ้าสัตว์ร้าย รนหาความตาย!” นางปล่อยข้อมือของแม่นมเติ้งทันที
ปิ่นแหลมแทงลงมาอย่างแรง ลั่วชิงยวนหันศีรษะเพื่อหลบหลีก ในขณะเดียวกันก็ต่อยเข้าที่ท้องแม่นมเติ้ง และเตะนางออกไปอย่างแรง
นางพลิกตัวอย่างรวดเร็ว และกดแม่นมเติ้งเอาไว้ จากนั้นนางกัดนิ้วแล้ววาดยันต์ลงบนหน้าผากของแม่นมเติ้ง
ในขณะที่ยันต์ถูกวาด ควันสีดำลอยออกมาจากหน้าผากแม่นมเติ้ง นางพยายามดิ้นรน ใบหน้าของนางบิดเบี้ยวและดุร้าย ก่อนจะกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
คนรับใช้ที่อยู่นอกลานได้ยินเสียงที่น่าสยดสยองนี้ ต่างก็รู้สึกขนลุกเกรียว
พลางจับกลุ่มรวมตัว พูดคุยกันเสียงต่ำ "แม่นมเติ้งเป็นอะไรไป? ร้องซะน่ากลัวเชียว?”
“พระชายาทุบตีนางรึ?”
"โอดโอยเยี่ยงนี้ ต้องใช่เป็นแน่!"
……
ทันทีที่ควันดำสลายไป เงาสีฟ้าก็เลื่อนผ่านโต๊ะไปอย่างรวดเร็ว และหายไปที่หน้าประตู
ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว มองแม่นมเติ้งที่หมดสติอยู่ ไม่นึกเลยว่าครอบครัวนางก่อปัญหาไว้ไม่น้อย ตอนแรกเข้าใจว่านางเพียงแค่เจอกับอะไรเข้า คงจะรักษาไม่ยาก
พอมาคิดดูอีกที ครอบครัวนั้นที่เซ่นไหว้คนตายด้วยเงิน ซึ่งมันน่าแปลก
แม่นมเติ้งตื่นค่อย ๆ ฟื้นขึ้นมา นางลุกขึ้นจากพื้น มองไปรอบ ๆ ด้วยความงุนงง "พระชายา บ่าว...บ่าวมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?"
ลั่วชิงยวนหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดเลือดจากนิ้วตนเอง และถามว่า "ความทรงจำครั้งสุดท้ายของเจ้าคืออะไร?"
“เมื่อคืนบ่าวออกจากจวนตามคำแนะนำของพระชายา และบ่าวก็เอายาให้แม่กิน แต่มันดึกแล้ว บ่าวจึงไม่กล้าไปที่สุสาน รอจนเช้าตรู่ของวันนี้ หลังจากที่เผาเงิน และกระดาษเงินกระดาษทองพวกนั้นแล้ว บ่าวก็รีบกลับมาที่ตำหนัก แต่เหตุใดพอตื่นขึ้นมา ก็มาอยู่ในเรือนเสียแล้ว…"
แม่นมเติ้งรู้สึกสับสนมาก ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าหน้าผากของนางเปียก นางยกมือขึ้นแตะมัน ก่อนจะตกใจเมื่อเห็นเลือดบนมือ
ลั่วชิงยวนพูดอย่างเป็นกันเอง "ไม่ต้องตกใจไป เรื่องครอบครัวของเจ้ายังไม่จบ"
"มีบางสิ่งต้องการกลายเป็นมนุษย์ด้วยวิธีที่ผิด ทุกสิ่งในโลกนี้ล้วนอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรม กรรมจะได้รับการชดใช้ มันไม่มีทางจบด้วยดีเป็นแน่"
นางนั่งลงที่โต๊ะ ก่อนจะวาดยันต์สองอัน
แม่นมเติ้งฟังคำพูดของนาง น้ำเสียงที่ยากจะหยั่งรู้นั้นทำให้นางรู้สึกหวาดกลัว
เมื่อนางกำลังจะถาม ลั่วชิงยวนก็พูดขึ้นอีกครั้ง "หากเจ้าอยากเดินในเส้นทางที่ถูกต้อง ข้าอาจจะช่วยเจ้าได้ การได้พบข้าถือเป็นโชคชะตาของเจ้า"
แม่นมเติ้งรู้สึกสับสน แต่นางพยักหน้า "เดินในเส้นทางที่ถูกต้อง! บ่าวจะเดินในเส้นทางที่ถูกต้องเจ้าค่ะ!"
ลั่วชิงยวนเงยหน้าขึ้นและมองไปที่ลำแสง แสงสีฟ้านั้นซ่อนตัวและหายไปทันที
นางยื่นยันต์ทั้งสองให้แม่นมเติ้ง "เจ้าจงนำยันต์นี้ไปติดที่หัวเตียงแม่เจ้าอันหนึ่ง อีกอันก็ติดที่หัวเตียงของเจ้า ตั้งเครื่องบูชาไว้ในห้องข้าง ๆ และจุดธูปวันละสามดอก จะสามารถคุ้มครองพวกเจ้าให้ปลอดภัย และอาจจะได้พบโอกาสอื่นอีกด้วย"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
พระเอกก็โง่ นางเอกก็งี้เง่าไม่สมเหตุสมผลอะไรสักอย่าง ตอนแรกก็อวยยศเป็นถึงปรมาจารย์ แต่สกิลอ่อนด๋อยมาก เสียเวลาอ่านจริงๆ จะครึ่งเรื่องละยังไม่มีสาระอะไรเลย...
หลงเข้ามาอ่านเสียเวลาตั้งนาน ในเรื่องมีแต่พวกสติไม้เต็ม พระเอกปัญญาอ่อน+ ไบโพล่า กลับกลอกชิบหาย นางเอกก็โง่จนเอียนหวังพึ่งพอ ช่วยพอ.มันทำห่าอะไร ทำดีไม่เคยได้ดี ประสาทแดก...
นังเอกนี่ควายมั้ย โง่บรม...
กำลังสนุกเลยค่ะต่อๆค่ะ...
เนื้อเรื่องไม่มีความฉลาดเลย แต่ละคน บ้าบอมาก...
ตายๆ ไปซะ นางเอกไร้น้ำยา ทำอะไรก้ไม่ได้ดีซักอย่าง...
พระชายยา เหี้ยไร ไร้น้ำยาสิ้นดี เหมือนนางทาส...
นางเอกก็หน้าด้านชิบหาย ผัวเกลี่ยดขนาดนี้ ก็ยังหน้าด้านทน...
🫠...
อ๋องคือโง่มากอะ เหมือนจะฉลาดแต่ก็ไม่พกสติเลย นางเอกก็โดนทรมานเกิน...