หลังอาหารเที่ยง ลั่วชิงยวนก็พาแม่นมเติ้งออกจากตำหนักอ๋อง ทิ้งให้จือเฉาคอยอยู่เฝ้าเรือน
“พระชายา หากว่าท่านต้องการหาของกำนัลวันเกิดให้กับท่านมหาราชครูลั่ว ของนั้นต้องพิถีพิถันหน่อยเจ้าค่ะ ไยเราถึงไม่ไปลองดูของล้ำค่าที่ศาลาทรัพย์สุขาวดีล่ะเจ้าคะ? เพราะอย่างไรก็ลงบัญชีของตำหนักอ๋องไว้”
“มิต้องหรอก ของกำนัลที่ข้าจะให้ต้องไม่ใช้เงินของฟู่เฉินหวน”
นางไม่อยากให้มีคนมาตำหนิเอาได้ในอนาคต
“เราไปที่จวนมหาราชครูดูก่อนดีกว่า”
หากว่ามีสิ่งที่เป็นปัญหาที่จวนมหาราชครู การช่วยกำจัดภัยนั้นก็ต้องมีค่ามากกว่าของล้ำค่าจากศาลาทรัพย์สุขาวดีแน่
หลังจากที่ต้องผ่านตลาดอันแสนจอแจมา พวกนางก็มาถึงถนนสวีสี่ที่เงียบสงบ นางก็มองเห็นจวนมหาราชครูที่ใหญ่โต
ตอนนั้นบิดาของนางท่านอัครเสนาบดีก็ยืนอยู่ที่หน้าจวนมหาราชครู
ด้านหลังของเขาก็มีนักพรตเต๋าที่สวนชุดคลุมแบบนักบวชลัทธิเต๋าอยู่
“น้องหญิงหรง เจ้าลองดูก่อน นี่มิใช่เรื่องหลอกลวงต้มตุ๋นแน่ ช่วงนี้ในจวนมีเรื่องแปลก ๆ เกิดขึ้นมากมาย ต้องมีสิ่งใดที่ไม่ดีอยู่เป็นแน่” ลั่วไห่ผิงแนะนำอย่างจริงใจ
สตรีที่ดูมีสง่าราศีตรงหน้าประตูนั้นมีท่าทางดุร้ายและไม่อาจรับมือได้โดยง่าย น้ำเสียงของนางเย็นชา
“ท่านอัครเสนาบดี ได้โปรดกลับไปเถอะ นี่เป็นเรื่องของข้ามิได้มีอันใดเกี่ยวข้องกับท่าน บิดาของข้าก็ไม่ชอบให้ท่านมาอยู่ที่หน้าประตูเรือนเช่นกัน ข้าไม่ต้องการจะยุ่งกับท่าน เมื่อท่านแยกเรือนออกไปแล้วยังมาก่อเรื่องวุ่นวายเช่นนี้ไม่ควรนัก”
สตรีผู้นี้ก็คือมารดาของลั่วอวิ๋นซี บุตรสาวคนเดียวของมหาราชครูลั่ว…
ลั่วหรง
“น้องหญิงหรง ข้าไม่ได้มีเจตนาอื่นจริง ๆ ข้าเพียงต้องการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในจวนเพียงเท่านั้น ข้ามีประสบการณ์เรื่องเหล่านี้ ได้โปรดเชื่อข้าสักครั้งเถอะ”
ลั่วไห่ผิงนั้นร้อนใจจนเอามือยกยันประตูเอาไว้ เพราะกลัวว่าลั่วหรงจะปิดประตูใส่เขา
นี่เป็นครั้งแรกที่ลั่วชิงยวนเห็นท่านอัครเสนาบดีผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งเป็นบิดาของตนยอมก้มหัวขอร้องคนอื่นเช่นนี้ เขาทั้งใช้น้ำเสียงวิงวอน และมีท่าทีประนีประนอมมาก
เห็นได้ชัดว่า ลั่วหรงนั้นเริ่มที่จะหมดความอดทน “ท่านอัครเสนาบดี ได้โปรดใส่ใจแต่เรื่องของท่านเองเถิด ท่านมิจำเป็นต้องมาเป็นห่วงกังวลเกี่ยวกับเรื่องภายในของจวนมหาราชครู” หลังจากพูดจบนางก็สั่งอย่างมีโทสะว่า “เร็ว มาส่งแขก”
นี่เรียกว่าการส่งแขกที่ไหนกันเล่า? เห็นได้ชัดว่า เรียกคนสองสามคนมาไล่ให้ลั่วไห่ผิงกลับ
อย่างไรเสียเขาก็เป็นถึงอัครเสนาบดี เมื่อเขาโดนผลัก เขาก็ต้องยอมถอยหลังมาหลายก้าวอย่างอับอาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...