“ของพวกนั้นไม่อาจพาคนที่ท่านอยากพบกลับมาได้ มันมีแต่จะนำปัญหาไม่รู้จบ และแม้แต่ความหายนะมาสู่ตระกูลของท่านด้วย”
ทันทีที่นางได้ยินสิ่งนี้ ลั่วหรงก็ชะงักฝีเท้าลงและร่างกายของนางก็แข็งทื่อ
ลั่วหรงยืนตัวแข็งทื่ออยู่เป็นเวลานานก่อนจะหันหลังกลับมา
นางสบตากับลั่วชิงยวนด้วยสายตาเฉียบคม "นี่เจ้าคิดจะเข้ามาสอดแนมเรื่องของตระกูลข้าอย่างนั้นสินะ? ฮ่า ข้าคงประเมินเจ้าต่ำไป!"
แม้แต่สมาชิกในตระกูลก็มีเพียงแค่ไม่กี่คนที่รู้ความลับเรื่องนี้ แต่คนนอกอย่างลั่วชิงยวนกลับรู้เรื่องนี้กับเขาด้วย!
แน่นอนว่า คนที่หาวิธีจับผู้ชายได้อย่างนาง ย่อมมีหัวคิดไม่ธรรมดา
แม้ว่าภายนอกนางจะดูอ้วนและไม่ฉลาดนัก แต่ภายใต้รูปร่างหน้าตาเช่นนั้นของนางได้เก็บซ่อนความฉลาดหลักแหลมเอาไว้!
รอยยิ้มมีนัยปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของลั่วชิงยวน "ข้าอยากจะขอถามท่านตรง ๆ สักหน่อย"
“ฮูหยินลั่ว ท่านเคยถามตัวเองบ้างหรือไม่? คนที่ท่านอยากพบตายจากไปหลายสิบปีแล้ว หากเขาหมดกรรมและไปเกิดนานแล้ว เขาจะยังอยู่ในใต้หล้านี้อีกหรือ? จริงอยู่ที่ท่านทุ่มเทอย่างหนักเพื่อเรียกให้เขากลับมา แต่สิ่งที่ถูกเรียกมานั้นจะใช่เขาแน่หรือ?”
คำถามนี้ทำให้ลั่วหรงชะงักไป
นางขมวดคิ้ว ดวงตาคลอหน่วยไปด้วยหยาดน้ำ และนางก็ตกใจเป็นอย่างมาก
ใช่ มันผ่านไปหลายทศวรรษแล้ว
เขาคงกลับชาติมาเกิดตั้งนานแล้ว…
แต่ว่านางยังเอาแต่อัญเชิญวิญญาณไปเรื่อย ๆ ไม่รู้เลยว่าที่ผ่านมาอัญเชิญวิญญาณประเภทใดมาบ้าง
“ฮูหยินลั่ว แม้ว่านี่จะไม่ใช่เรื่องของข้า แต่ข้าก็ยังอยากจะพูดกับฮูหยินเรื่องของลั่วอวิ๋นสี่สักสองสามคำ ฮูหยินลั่วไม่อยากรู้หรือว่าวันนี้ข้าไปพบนางที่ใดมา”
รูม่านตาของลั่วหรงหดลง และนางก็จ้องมองคู่สนทนาไม่วางตา สายตาแหลมคมของนางดูคล้ายจะมองทะลุผ่านร่างกายของลั่วชิงยวน
แต่ลั่วหรงไม่เห็นอะไรจากรอยยิ้มของลั่วชิงยวนเลย
“นี่ก็ดึกแล้ว แถมที่นี่ยังอยู่ห่างจากตำหนักของข้าไปถึงสามช่วงถนน จวนมหาราชครูคงไม่คิดจะบีบบังคับให้แขกอย่างข้ากลับไปในเวลาเช่นนี้หรอกใช่หรือไม่?”
ลั่วหรงนึกกังขาเมื่อเห็นว่าลั่วชิงยวนตั้งใจที่จะอยู่ค้างคืนที่นี่
แต่เมื่อมองดูท้องฟ้า นี่ก็ค่ำมืดดึกดื่นแล้ว หากจะให้ลั่วชิงยวนกลับไปเพียงลำพังก็คงไม่ปลอดภัยต่อนางนัก
ขณะนี้กำลังคนในจวนมีน้อยมาก และไม่มีใครสามารถคุ้มกันลั่วชิงยวนกลับไปส่งที่ตำหนักของตนได้
ถ้าจวนของนางขับไล่ไสส่งอีกฝ่ายไป นางก็กลัวว่าผู้คนจะนินทาจวนมหาราชครูกันเซ็งแซ่
ลั่วหรงสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ก่อนจะรับคำ "ก็ได้ เช่นนั้นเจ้าก็พักอยู่ที่นี่สักคืนก็แล้วกัน"
ในที่สุดก็ตกลงกันได้ ลั่วชิงยวนถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...