ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 1210

“กรี๊ด” ลั่วชิงยวนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ได้แต่ขดตัวอยู่บนพื้น ตัวสั่นเทาด้วยความเจ็บปวด

รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า แท่งเหล็กถูกแทงลึกลงไปอีก ความรู้สึกที่กระดูกถูกแยกออกจากกันนั้นทำให้เจ็บปวดจนอยากตาย

“ดี ยังมิยอมบอกอีกใช่หรือไม่”

ลั่วฉิงหยิบแท่งเหล็กอีกอันแทงเข้าไปในมืออีกข้างของลั่วชิงยวนอย่างแรง

ตลอดทั้งคืน ลั่วชิงยวนถูกทรมานจนเหมือนตายแล้วเกิดขึ้นใหม่ หลายครั้งที่สลบไปเพราะความเจ็บปวด แล้วก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด

จนในที่สุด คอของนางก็แหบแห้งจนส่งเสียงร้องมิได้ด้วยซ้ำ

ฟ้าสางแล้ว แสงแดดสาดส่องเข้ามา ลั่วชิงยวนนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นราวกับแอ่งโคลนเปียก มิขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย

เลือดเปรอะเปื้อนอาภรณ์ของนางจนเป็นสีแดงฉาน แสงแดดส่องกระทบกองเลือดจนเป็นประกาย

......

ตำหนักอ๋อง

มีเสียงคำรามด้วยความโกรธดังมาจากห้องตำรา

“ยังไม่มีใครมารายงานข้าสักคน! รีบไปหา! ออกไปหาให้หมด!”

ฟู่เฉินหวนโกรธจัด มึนหัวจนต้องเอามือยันโต๊ะไว้

ถึงแม้จะนั่งลงเพื่อจัดการเรื่องต่าง ๆ แต่ก็ยังมิสามารถสงบสติอารมณ์ได้ ร้อนรุ่มใจยิ่งนัก

ได้แต่หวังว่านางจะออกจากตำหนักไปเอง

จือเฉายังคงอยู่ที่หน้าประตูวัง เพราะนางเป็นเพียงนางรับใช้ เข้าวังมิได้ จึงได้แต่รออยู่ที่นี่เผื่อจะมีคนรู้จักพานางเข้าวังไปเพื่อส่งข่าวให้จักรพรรดิสูงสุด

องค์ชายเจ็ดหายตัวไป ส่วนแม่ทัพใหญ่ฉินก็มิอยู่ในจวน นางมิรู้ว่าจะขอความช่วยเหลือจากใครได้ จึงร้อนใจยิ่งนัก

แต่ทันใดนั้นเอง องครักษ์ของตำหนักอ๋องก็ปรากฏตัวขึ้นแล้วจับตัวจือเฉาไป

จือเฉาที่ถูกจับกลับตำหนักคุกเข่าอยู่บนพื้น

เมื่อฟู่เฉินหวนเดินมาถึง จือเฉาก็ร้องไห้พลางกล่าวว่า “ท่านอ๋องจะฆ่าบ่าวก็เชิญเลยเพคะ แต่อย่าให้พระชายาทราบ มิเช่นนั้นพระชายาจะเสียใจเพคะ”

ฟู่เฉินหวนหรี่ตาลง แววตาเย็นชาขณะถามว่า “ลั่วชิงยวนอยู่ที่ใด!”

เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของจือเฉาก็เปลี่ยนไป

นางเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ “พระชายามิได้อยู่ในตำหนักหรือเพคะ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย