ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 1211

นางเอ่ยปากอย่างอ่อนแรง “ได้”

ลั่วฉิงพยุงนางขึ้น แล้วโยนนางลงบนเก้าอี้

ลั่วชิงยวนไร้เรี่ยวแรงจะพูด “ข้าต้องการสมุนไพร”

มือทั้งสองข้างของนางวางอยู่บนที่วางแขน แท่งเหล็กยังคงปักอยู่ เลือดไหลอาบมิหยุด ขยับร่างกายมิได้เลย

ลั่วฉิงมองนางอย่างเย็นชา ก่อนจะกดมือของนางไว้แล้วดึงแท่งเหล็กออกอย่างรวดเร็ว

“กรี๊ด”

ลั่วชิงยวนร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด

ลั่วฉิงโน้มตัวลงมองนางด้วยสายตาเย็นชา “ก่อนหน้านี้เจ้ามิเคยกลัวความเจ็บปวดเช่นนี้ ลั่วเหลา”

ลั่วชิงยวนตัวสั่น มองนางด้วยความตกใจ

“นี่ก็เป็นสิ่งที่ฟู่เฉินหวนบอกเจ้าเช่นนั้นหรือ?” ลั่วชิงยวนรู้สึกทั้งโกรธและสิ้นหวังในใจ

ลั่วฉิงนำยามาทำแผลให้

พลางหัวเราะอย่างดูถูก “มินึกเลยว่านักบวชระดับสูงลั่วเหลาผู้มีพรสวรรค์มาตั้งแต่เด็ก ถูกอาจารย์เอ็นดูทะนุถนอมมาโดยตลอด สุดท้ายกลับพ่ายแพ้ให้กับบุรุษ”

ในน้ำเสียงของลั่วฉิงแฝงไปด้วยความอิจฉาริษยา

ลั่วชิงยวนมองนางด้วยแววตาเย็นชา “ข้ากับเจ้ามิเคยมีเรื่องบาดหมางกันมิใช่หรือ”

แววตาของลั่วฉิงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง มองนางอย่างเย็นชา “ในสายตาของเจ้า อาจจะไม่มีเรื่องบาดหมาง”

“แต่สำหรับข้า เรื่องบาดหมางนั้นใหญ่หลวงนัก”

“ข้าพยายามอย่างหนัก อาจารย์ก็ชอบข้า แต่สุดท้ายนางกลับยกตำแหน่งนักบวชระดับสูงให้เจ้า”

“หากมิใช่เจ้าที่แย่งตำแหน่งนักบวชระดับสูงไป ข้าจะต้องมาที่แคว้นเทียนเชวีย และมุ่งมั่นที่จะเป็นมหาปราชญ์เช่นนี้หรือ?”

“จะว่าไปก็เป็นเวรกรรม ความเจ็บปวดทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งที่เจ้าสมควรได้รับ”

ลั่วฉิงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย่อหยิ่ง

เมื่อคิดว่านักบวชระดับสูงที่เคยสูงส่ง บัดนี้กลับตกต่ำเช่นนี้ ก็ทำให้นางสาแก่ใจยิ่งนัก

เมื่อคืนตอนที่ได้ยินลั่วชิงยวนคุยกับฟู่เฉินหวน นางก็ตกใจอยู่พักหนึ่ง

ที่แท้นางก็คือลั่วเหลา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย