“ใครให้เจ้าใช้กลิ่นกล้วยไม้? คิดว่าตัวเองคู่ควรกับมันรึ?”
แววตาอันชั่วร้ายและกลิ่นอายสังหารทั่วร่างที่แผ่ออกมาทำให้หลานจีหวาดกลัวจนต้องดิ้นรนอย่างสุดชีวิต
“ท่าน… ท่านแม่ทัพ ท่านเป็นให้ข้าใช้มันเองนะเจ้าคะ”
ดวงตาของเฉินชีเปลี่ยนเป็นเยือกเย็น เขาโยนหลานจีออกจากห้องอย่างโหดร้าย
“นับตั้งแต่วันนี้ห้ามใช้น้ำหอมกลิ่นกล้วยไม้อีก ไสหัวไป!”
หลานจีล้มออกมานอกห้องอย่างแรงจนกลิ้งตกขั้นบันไดและกระอักเลือดออกมา ทำให้ตกอยู่ในสภาพที่ดูมิได้อย่างยิ่ง
นางเงยหน้าขึ้นด้วยความมิอยากเชื่อ มิเข้าใจว่าเหตุใดอารมณ์ของท่านแม่ทัพถึงเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน
เมื่อก่อนเขาชอบดูนางร่ายรำเป็นที่สุด และชอบกลิ่นหอมของกล้วยไม้บนตัวของนางด้วยเช่นกัน
เหตุใดจู่ ๆ ถึง…
หลานจีพยายามลุกขึ้นจากพื้นพลางมองไปที่เฉินชีที่ยังคงดื่มอยู่ในห้อง “ท่านแม่ทัพมีเรื่องอันใดมิสบายใจใช่หรือไม่เจ้าคะ หลานจียินดีช่วยแบ่งเบาความกังวลให้ท่านแม่ทัพเจ้าค่ะ!”
ทันใดนั้นก็มีบุคคลหนึ่งก้าวออกมาจากด้านหลัง ร่างนั้นเดินผ่านหน้านาง และได้ตบนางอย่างแรง
ทำให้หลานจีล้มลงกับพื้นอีกครั้ง
“ไล่ให้เจ้าไสหัวไปแต่กลับมิทำ จะรอข้ามาถลกหนังรึไร?” ดวงตาของเกาเหมียวเหมี่ยวเย็นชาและแฝงความเย่อหยิ่งเอาไว้
หลานจีจ้องมองเกาเหมียวเหมี่ยวด้วยความขุ่นเคือง
เกาเหมียวเหมี่ยวที่ถูกหลานจีจ้องมองเช่นนั้นก็โมโหจนคว้าคอหลานจีแล้วลากนางมาข้างหน้า
“กล้ามองข้าเยี่ยงนี้ ข้าว่าคงมิต้องเก็บลูกตาของเจ้าไว้แล้วกระมัง!” ขณะที่พูดนางก็ทำท่าจะควักลูกตาของหลานจีออกมา
เสียงของเฉินชีที่ทุบขวดสุราด้วยความเหลืออดดังออกมาจากในห้อง “พอแล้ว!”
“ไสหัวไปเสีย!”
เกาเหมียวเหมี่ยวถึงได้ปล่อยหลานจีไป
นางจ้องมองอีกฝ่ายอย่างเย็นชา “ก่อนหน้านี้เฉินชีเคยปกป้องเจ้า แต่จากนี้เขาจะมิปกป้องเจ้าอีกต่อไปแล้ว หากเจ้าบังอาจทำตัวสามหาวกับองค์หญิงเช่นข้าอีก ข้าก็มีวิธีมากมายที่จะทำให้เจ้าต้องทุกข์ทรมานเสียยิ่งกว่าตาย!”
หลานจีล้มลงกับพื้น พลางมองไปยังเฉินชีที่อยู่ในห้องด้วยดวงตาแดงก่ำ และจากไปอย่างรวดเร็ว
พร้อมกับหลั่งน้ำตาด้วยความเสียใจ
เกาเหมียวเหมี่ยวมองตามหลังหลานจีที่กำลังเดินจากไปและยิ้มอย่างเย็นชา มิช้าก็เร็วนางจะต้องปลิดชีพคนสารเลวนี้ให้ได้
จากนั้นเกาเหมียวเหมี่ยวก็เดินเข้ามาในห้อง เมื่อเห็นเฉินชีที่ดื่มอยู่คนเดียว นางก็นั่งลง
“ชอบถึงขั้นยอมพลีกายให้ข้าได้ใช่หรือไม่?”
เกาเหมียวเหมี่ยวตกใจและมองเขาด้วยความตะลึง
แต่แล้วราวกับว่านางได้ตัดสินใจสิ่งที่สำคัญบางอย่าง พลางเอามือของเขาออกและเริ่มปลดสายรัดเอวด้วยตัวเอง
“ได้ หากเจ้าต้องการ ข้าก็จะมอบให้”
เฉินชีนั่งนิ่งบนเก้าอี้ ขณะเดียวกันเกาเหมียวเหมี่ยวก็ถอดอาภรณ์ออกอย่างช้า ๆ จนสุดท้ายอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า ภายใต้สายตาที่กำลังจับจ้องของเฉินชี นางก็ค่อย ๆ เข้ามาใกล้เขา
ทว่าเมื่อนางเข้ามาแนบชิดกับร่างกายของเฉินชี เขาก็ผลักนางออกไป
เขาจ้องมองนางตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วพูดเสียงเย็น “ช่างเถิด ข้ามิได้มีความรู้สึกต่อเจ้าเลยจริง ๆ”
คำพูดเฉยเมยดังกล่าวกลับทำให้เกาเหมียวเหมี่ยวอับอายอย่างมาก
นางยืนตะลึงอยู่กับที่ราวกับโดนฟ้าผ่า
สายตาที่มองเฉินชีเยือกเย็นประดุจดาบคม และมิอาจปกปิดความเกลียดชังในดวงตาคู่นั้นได้เลย
ใบหน้าของเกาเหมียวเหมี่ยวเปลี่ยนเป็นซีดเซียว นางขบริมฝีปากล่างแน่น “ข้าเป็นถึงองค์หญิงผู้สง่างาม แต่ในสายตาของเจ้า ข้าก็มิอาจเทียบกับนางรำหลานจีนั่นได้อย่างนั้นรึ!”
“ต่างกันลิบลับ รีบออกไปได้แล้ว อย่ามาเกะกะสายตาข้า” เฉินชีขมวดคิ้วพลางทำสายตารังเกียจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...