แต่ขณะที่ทั้งสองคนกำลังต่อสู้กันอย่างสูสี
วิชาฝ่ามือที่จู่โจมเข้ามาอย่างฉับพลันของลั่วชิงยวนทำให้ฉินอี้มิทันตั้งตัว เขาถูกรัวหมัดใส่อย่างต่อเนื่องจนลอยกระเด็นออกไป และกระอักเลือดออกมา
การต่อสู้สิ้นจบลงในพริบตาเดียว
หลายคนที่อยู่รอบด้านล้วนเห็นมิชัด
“เมื่อครู่เกิดกระไรขึ้น?”
“ต่อสู้กันอยู่มิใช่หรือ? เหตุใดจู่ ๆ ฉินอี้ถึงแพ้ได้เล่า?”
ลั่วชิงยวนมองฉินอี้ด้วยสายตาเย็นชา “ดูเหมือนวรยุทธ์ขององค์ชายใหญ่จะเป็นอย่างที่คนเขาลือกันนะเพคะ”
เทียบกับคนทั่วไปแล้ว วรยุทธ์ของฉินอี้ก็ถือว่ามิได้อ่อนด้อยเลย
แต่สำหรับคนที่เป็นถึงองค์ชายนั้นช่างดูอ่อนแอนัก
เมื่อครู่ที่ลั่วชิงยวนลองทดสอบ ดูเหมือนว่าเขายังคงมีทักษะวรยุทธ์แบบเดียวกับที่เคยเรียนมาเมื่อก่อน และมิได้มีความก้าวหน้ามากนัก
เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร
หากฉินอี้เพียรพยายามมากกว่านี้ ผลลัพธ์ก็คงมิเป็นเช่นนี้
ฉินอีจ้องนางด้วยโทสะ ดูเหมือนจะเจ็บใจที่วรยุทธ์ของตนอ่อนด้อยเกินไป ทำให้เสียงวิพากษ์วิจารณ์รอบข้างยิ่งบาดหูมากขึ้นไปอีก
เขากัดฟันพลางกำหมัดแน่น และพุ่งเข้าหาลั่วชิงยวนอย่างดุร้าย
เขามิยอมพ่ายแพ้เช่นนี้หรอก
แต่เขากลับมิสามารถเอาชนะลั่วชิงยวนได้เลย
เขาถูกลั่วชิงยวนทุบตีอย่างรุนแรงจนเลือดท่วมศีรษะ
บรรดาผู้ชมต่างพากันร้องอุทาน
“ลั่วชิงยวนเพิ่งจัดการองค์หญิงมา แล้วตอนนี้ก็กำลังจัดการองค์ชายใหญ่จนมีสภาพเช่นนี้ กำเริบเสิบสานจริง ๆ”
“แม้นางจะมีเฉินฉีหนุนหลังอยู่ แต่ก็มิอาจทำตัวบ้าคลั่งเช่นนี้ได้!”
แต่ในขณะนี้ ลั่วชิงยวนกลับบ้าคลั่งไปแล้ว
หลังจากที่ฉินอี้ถูกเตะล้มลงกับพื้น เขาที่อยู่ในสภาพใบหน้าและจมูกฟกช้ำก็ยังมิยอมแพ้และต้องการจะลุกขึ้น
แต่ก็ถูกลั่วชิงยวนเหยียบหน้าอกเอาไว้ ทั้งยังถูกถีบกลับไปที่พื้น
นางจ้องฉินอี้ด้วยสายตาเย็นชา “องค์ชายใหญ่ หากครั้งหน้าท่านจะสั่งสอนใคร โปรดตรวจดูก่อนว่าท่านพอจะรับมือคนผู้นั้นได้หรือไม่”
ลั่วชิงยวนมีอะไรให้กลัว
พวกเขาตรงเข้ามาล้อมรอบลั่วชิงยวนเอาไว้
ลั่วชิงยวนตกตะลึง เป็นไปตามคาดว่าจะมา อีกทั้งยังมาเร็วกว่าที่คิด
นางมิได้สู้กลับ และถูกองครักษ์จับตัวเอาไว้
พวกเขายังใส่โซ่ตรวนข้อมือและข้อเท้าให้นาง พานางเดินไปเหมือนกับเป็นนักโทษ
“ดูซิว่าคราวนี้นางจะยังกล้าทำตัวอวดดีอยู่อีกหรือไม่”
“กล้าทำร้ายเกาเหมียวเหมี่ยวเช่นนี้ก็เท่ากับรนหาที่ตาย”
“ฮองเฮาไม่มีวันปล่อยนางไปแน่”
“ข้าเดาว่าคราวนี้เฉินชีคงช่วยชีวิตนางมิได้แล้ว!"
เวินซินถงที่ยืนอยู่มิไกลนักเฝ้าดูอย่างเงียบ ๆ
เซี่ยหลิงตามเวินซินถงไปและพูดว่า “เจ้าวางใจได้ ครั้งนี้ลั่วชิงยวนตายแน่! ไม่มีใครจะมาคุกคามตำแหน่งของเจ้าได้!”
เวินซินถงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเล็กน้อย “ให้นางตายก่อนค่อยพูดคำนั้น”
“สิ่งที่พูดเร็วเกินไปมักจะมิเป็นความจริง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...