ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 1291

นางจ้องมองไปยังเฉินชีพลางเอ่ยว่า “โอสถนี้ก็แค่บำรุงรักษาร่างกายทั่วไป มิได้มีผลอะไรต่อข้าในยามนี้”

เฉินชีกลับกล่าวตอบ “ร่างกายของเจ้าในยามนี้มิอาจกินยาแรงได้ ตำรับยานี้สามารถรักษาบาดแผลภายนอกของเจ้าได้”

ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วมุ่นมองเขา “แต่ยามนี้ข้าต้องการโอสถรักษาบาดแผลภายใน”

“โอสถของเจ้าเพียงรักษาที่ปลายเหตุ มิได้รักษาที่ต้นเหตุ!”

เฉินชียังคงยืนกรานในความคิดของตน “วางใจเถิดอาเหลา โอสถที่ข้าให้เจ้ากินนั้นย่อมเหมาะสมแก่เจ้าที่สุด”

“เจ้าพักผ่อนให้ดี ข้ายังต้องเข้าวังไปอีกครั้ง”

“เรื่องของเกาเหมียวเหมี่ยวยังมิได้สะสาง”

“เจ้าพักอยู่ที่นี่ให้สบายใจ ไม่มีผู้ใดกล้าทำร้ายเจ้าหรอก”

กล่าวจบ เฉินชีก็จากไป

อีกทั้งยังจัดแจงให้คนมาส่งโอสถแก่ลั่วชิงยวนด้วย

ลั่วชิงยวนพักรักษาตัวอยู่ที่เรือนของเฉินชีสองวันแล้ว ทุกวันจะมีนางรับใช้มาเปลี่ยนผ้าพันแผลและเสื้อผ้าให้ตรงเวลา

โอสถที่นำมาให้ก็ล้วนเป็นไปตามตำรับของเฉินชี

ทว่าลั่วชิงยวนรู้ซึ้งถึงอาการของตนดีว่า ร่างกายของตนนั้นจำต้องได้รับการรักษาด้วยโอสถใด

ตำรับยาของเฉินชีนั้นเป็นเพียงยาบำรุงร่างกายและให้สารอาหารแก่ร่างกายนี้ แต่การบำรุงเพียงอย่างเดียวนั้นมิอาจทำให้หายขาดได้

ต้องใช้เวลายาวนานมากกว่าจะหายได้

นางจะทนรอได้อย่างไร

ในวันที่นางพยายามพยุงกายลุกขึ้นจากเตียงนั้นเอง นางได้เห็นร่างหนึ่งยืนอยู่ที่หน้าประตู

สตรีผู้นั้นแต่งกายเหมือนนางระบำ คิ้วและดวงตาของนางมีส่วนคล้ายคลึงกับนางในสมัยก่อนอยู่หลายส่วน

คงเป็นคนใกล้ชิดของเฉินชี

และในขณะนี้ สตรีผู้นั้นกำลังมองนางด้วยสายตาหวาดระแวงเจือด้วยความริษยา

“เหตุใดจึงมิเข้ามา?”

หลานจีตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ห้องนี้มิใช่ว่าผู้ใดก็สามารถย่างกรายเข้ามาได้”

“เจ้าเป็นใคร?”

ลั่วชิงยวนตอบกลับ “ข้ามีนามว่าลั่วชิงยวน”

เมื่อหลานจีได้ฟังดังนั้นก็ตกใจ นางเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน

ยามนี้ในเมืองหลวงมีผู้คนร่ำลือกันว่ามีสตรีผู้หนึ่งนามว่าลั่วชิงยวนสามารถสยบสิบวายร้ายได้

แท้จริงแล้วคือนางงั้นหรือ?

แววตาของหลานจีทวีความชิงชังมากขึ้น

ลั่วชิงยวนคุ้นเคยกับสายตาที่เปี่ยมด้วยความริษยาเช่นนี้เป็นอย่างดี

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย