ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 133

ท่านมหาราชครูได้ยินก็ขมวดคิ้ว “แม่เจ้าหรือ…”

“ข้าเจอหน้าไม่บ่อยนัก จึงจำมิได้ เพียงแต่นางเป็นหญิงสาวที่ดีมาก ๆ ตอนนั้นข้ายังคิด เป็นบุญอะไรของลั่วไห่ผิงกัน จึงได้แต่งกับคนอย่างแม่ของเจ้า”

“เพียงแต่ข้ามิได้หาสู่กับแม่ของเจ้า จึงจำมิค่อยได้แล้ว”

ได้ยินดังนี้ นัยน์ตาของลั่วชิงยวนเผยแววผิดหวัง

“บอกตรง ๆ ว่า ความสามารถเหล่านี้ของข้า ศึกษามาจากตำราที่ท่านแม่ของข้าทิ้งไว้ เพียงแต่ข้าเรียนรู้มาได้เพียงผิวเผิน”

นางพูดจบ ท่านมหาราชครูยิ่งรู้สึกฉงน “ที่แท้แม่ของเจ้ารู้เรื่องพวกนี้นี่เอง”

“มิน่าล่ะ!”

“ข้าก็ว่าเจ้ารู้เรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร ไม่เห็นเคยได้ยินมาก่อนว่าในจวนอัคมหาเสนาบดีมีผู้เก่งกาจ”

พูดจบ เขาตบไปที่ไหล่ของลั่วชิงยวน “หลายปีมานี้เจ้าเองก็ลำบากมาไม่น้อย จากนี้ไปหากลั่วไห่ผิงรังแกเจ้าอีก เจ้าก็มาหาข้า เดี๋ยวข้าผู้เป็นปู่จะช่วยเจ้าเอง!“

ลั่วชิงยวนพยักหน้า “ได้เจ้าค่ะ ขอบพระคุณท่านปู่!”

พูดจบก็ตะโกนสั่งด้านนอก “เรียกลั่วไห่ผิงเข้ามา!”

ลั่วชิงยวนชะงัก จากนั้นเดินเข้าห้องตามท่านมหาราชครู ท่านมหาราชครูค่อย ๆ นอนผิงบนเก้าอี้ จากนั้นก็พูดกับลั่วชิงยวน “นั่งลงสิ”

ลั่วไห่ผิงรู้ว่า ท่านมหาราชครูลั่วต้องการเจอเขา ก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก สีหน้าของเขาดีใจ ตลอดระหว่างทางที่เดินไปเรือนชั้นใน เขาจัดเสื้อผ้าอาภรณ์ด้วยท่าทีตื่นเต้นอยู่ตลอด

ลั่งไห่ผิงเดินเข้าห้อง ด้วยอารมณ์ที่ตื่นเต้นและกังวล น้ำเสียงของเขาดีใจอย่างปิดไม่อยู่ “ท่านอารอง!”

ท่านมหาราชครูมองเขาอย่างเฉยเมยทีหนึ่ง “ข้าถามหน่อย ลั่วชิงยวนใช่ลูกสาวแท้ ๆ ของเจ้าหรือไม่?”

ลั่งไห่ผิงมิเข้าใจ มองไปทางลั่วชิงยวนที่อยู่ด้านข้างด้วยสัญชาตญาณ ในใจรู้สึกซับซ้อนขึ้นมาทันที เขาที่เป็นพ่อต้องยืน ส่วนลูกสาวกลับนั่งอยู่

“ใช่ขอรับ”

“ใช่งั้นรึ แต่ข้าดูแล้วเหมือนไม่ใช่เลย เจ้าเก็บมาหรือไม่ หากเจ้าไม่อยากได้ ก็ให้ชิงยวนไปอยู่กับหรงเออร์และซิงหยวนขานเรียกพวกเขาว่าพ่อแม่เถิด!“

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย