ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 134

เขาร้องตะโกนทีหนึ่ง

ลั่วไห่ผิงตกใจจนก้าวถอยหลังไปหลายก้าว

คนใช้สีหน้าซีดเทา ใต้ตาดำมืด ดวงตาคู่นั้นขาวโพลนราวกับปลาตาย มองแล้วดูน่ากลัวนัก

“เจ้าเดินไม่มีเสียงงั้นหรือ? บังอาจเสียจริง!“ ลั่วไห่ผิงสงบจิตใจ เขาที่เป็นท่านอัครมหาเสนาบดี ตกใจบ่าวคนหนึ่งถึงขั้นนี้ หากคนอื่นรู้เข้าคงเสียหน้าแย่!

เขาสะบัดแขนเสื้อเดินออกไปด้วยน้ำโห

ทันทีที่เขาจากไป หัวของบ่าวผู้นั้นก็บิดหันอย่างแข็งทื่อ ดวงตาราวกับปลาตายคู่นั้นจ้องไปที่เขา

“มองบ้าอะไร?” ลั่วไห่ผิงโมโห

วินาทีต่อมา มือที่ขาวซีดคู่หนึ่ง ยกบีบมาที่เขาฉับพลัน และตะครุบลั่วไห่ผิงจนล้มนอนบนพื้น

ลั่วไห่ผิงเดินออกจากเรือนได้ไม่นาน ลั่วชิงยวนก็ได้ยินเสียงตะโกนตกใจทันที หว่างคิ้วของนางกระตุก “ท่านปู่ ข้าไปตรวจดูเสียก่อน”

ท่านมหาราชครูลั่งพยักหน้า จากนั่นหยิบภาพวาดไร้หน้าผืนนั้นขึ้นมาดูอีกครั้ง

ลั่วชิงยวนเดินไปตามเสียง แม้จะไม่มีเสียงตะโกนแล้ว แต่นางกลับสามารถได้ยินเสียงต่อสู้

เมื่อเหยียบที่เรือนเปลี่ยวร้าง ลั่วชิงยวนสามารถรับรู้ถึงพลังวิญญาณชั่วร้ายอย่างชัดเจน นางกวาดล้างสิ่งอัปมงคลของจวนมหาราชครูไปจนสิ้นแล้วมิใช่หรือ? เหตุใดที่นี่…

วินาทีที่ผลักประตูออก ร่างสองคนที่กำลังต่อสู้กันอยู่ตกในสายตา

นางตกตะลึง นั่นลั่วไห่ผิงมิใช่หรือ?

“อั่ก… อ๊าก…”ลั่งไห่ผิงขัดขืนสุดชีวิต แต่กลับยากลำบากจนส่งเสียงออกมาไม่ได้สักคำ

คิ้วของล้่วชิงยวนกระตุกทีหนึ่ง รีบเดินหน้าไปกดไหล่ของบ่าวรับใช้ผู้นั้นไว้ พร้อมกับดึงร่างเขาขึ้นมา “ผู้ใดกัน! ริอ่านลอบสังหารในจวนมหาราชครู!”

นางคิดโดยสัญชาตญาณว่า มีคนลอบสังหารลั่วไห่ผิง

ใครจะรู้ว่า เมื่อจับบ่าวรับใช้ผู้นั้นแล้ว ทันทีที่เห็นหน้าก็พลันเกิดความปั่นป่วนในใจขึ้นมาทันใด

นี่มัน…

ใบหน้าศพชัด ๆ

บ่าวรับใช้ผู้นั้นเปลี่ยนมาโจมตีนางแทน ลั่วชิงยวนเตะเขาออกอย่างรวดเร็ว ใช้ข้อได้เปรียบทางน้ำหนักกระแทกเขาลงกับพื้น และกดไว้อย่างแรง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย