ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 1390

“ไป!”

ลั่วชิงยวนมิลืมที่จะปิดประตูบานนั้นก่อนออกไป แล้วรีบดึงร่างคนใบ้ข้ามสะพานไปอย่างรวดเร็ว

“เร็วเข้า!”

พวกนางรีบขึ้นไปบนสะพานเหล็ก เมื่อมองลงไปก็เห็นความมืดมิดและหุบเหวลึกไร้ที่สิ้นสุด ความรู้สึกโคลงเคลงนั้นทำให้ทุกคนรู้สึกว่าตนอาจจะพลัดตกลงไปได้ทุกเมื่อ

หัวใจทุกคนแทบจะกระโจนออกมาจากอก

แต่ในเวลานี้พวกเขากลับมิได้มีเวลาสนใจสิ่งใดมากนัก จำต้องอดทนต่อความหวาดกลัวแล้ววิ่งข้ามไปยังอีกฝั่งของสะพานโดยที่มือกำโซ่เหล็กไว้แน่น

เมื่อวิ่งไปได้ครึ่งทาง คนที่อยู่ด้านหลังก็...

ไล่ตามมาแล้ว!

ลั่วชิงยวนใจหายวูบ เผลอชะงักฝีเท้า

แต่คนใบ้กลับคว้าแขนของนางไว้ มิอนุญาตให้นางหันหลังกลับไป

ลั่วชิงยวนมองเขา แล้วกล่าวว่า “หากพวกเขาฟันโซ่เหล็กขาด พวกเราทั้งหมดจะมิรอด”

มิรู้ว่าสะพานเหล็กบนหน้าผาแห่งนี้มีมานานเท่าไหร่แล้ว ไม่มีผู้ใดซ่อมแซม

ในเวลานี้เอง ร่างของเตี่ยฉุยก็พุ่งออกมา “ท่านแม่ ข้าจะไปขวางพวกเขาเอง!”

ลั่วชิงยวนหยิบเข็มทิศอาณัติสวรรค์ออกมา แล้วมองไปยังคนใบ้ “เจ้าจับข้าไว้ให้แน่น!”

คนใบ้พยักหน้า

จากนั้นนางก็กรีดนิ้ววาดวงเวทอัญเชิญวิญญาณอีกครั้ง

ระหว่างหน้าผาเกิดลมพายุโหมกระหน่ำ กระแสลมราวกับจะฉุดกระชากผู้คนลงสู่หุบเหวลึกนั้น

สะพานเหล็กบนหน้าผาสั่นไหวอย่างรุนแรง ทุกคนต่างกำโซ่เหล็กไว้แน่น

ส่วนซูเซียงพาคนติดตามมาจากด้านหลัง ในขณะที่จะไล่ตามมา กลับถูกกระแสลมพัดจนต้องถอยหลังไปหลายก้าว หวาดกลัวว่าจะถูกกระแสลมพัดลงไปในหุบเหว

“ไป” ใบหน้าของลั่วชิงยวนซีดเผือด ร่างกายอ่อนแรงยิ่งนัก

คนใบ้กำโซ่เหล็กและจับลั่วชิงยวนไว้แน่น

ส่วนโฉวสือชีที่ช่วยพยุงลั่วชิงยวนก็กำโซ่เหล็กไว้แน่นเช่นกัน

หลายคนฝ่ากระแสลมอันรุนแรงมุ่งหน้าไปยังหน้าผา

หงไห่วิ่งไปถึงอีกฝั่งก่อนแล้ว กำลังรอรับพวกเขา

ทันใดนั้นเอง ซูเซียงก็ตะโกนเสียงเกรี้ยวกราด “ไปฟันสะพานให้ขาด!”

ชายชุดดำหลายคนถือกระบี่ยาวไปฟันโซ่เหล็ก

ถึงแม้กระบี่ยาวในมือพวกเขาจะมิได้คมกริบดังกระบี่พิชิตมาร แต่สะพานนี้อยู่ท่ามกลางลมพายุโหมกระหน่ำบนหน้าผาแห่งนี้ จึงรับแรงต้านทานมิไหวอีกต่อไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย