ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 1399

จู่ ๆ ใบหน้าของนางพลันกลายเป็นน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง เส้นเลือดฝอยจำนวนมากแผ่ขยายไปบนใบหน้าซีดขาว เส้นเลือดชวนสยองขวัญปูดโปนออกมา

ใบหน้าบิดเบี้ยวน่ากลัวยิ่งนัก

ลั่วชิงยวนรีบขว้างยันต์แผ่นหนึ่งออกไป

ผลักอวี๋ตันเฟิ่งออกไปจนนางกระเด็นไปติดผนัง

ดูจากท่าทางแล้ว นางเกรงว่าอยู่ดี ๆ อวี๋ตันเฟิ่งอาจควบคุมตนเองมิได้และทำร้ายผู้คน

“หากเจ้าคิดมิออก ข้าจะช่วยเจ้าเอง”

ลั่วชิงยวนหยิบเข็มทิศอาณัติสวรรค์ขึ้นมาแล้วสร้างวงเวทกักขังอวี๋ตันเฟิ่งไว้

นางค่อย ๆ หลับตาลง

ภาพในอดีตอันงดงามของเมืองแห่งภูตผีผุดขึ้นเบื้องหน้า

เจ้าเมืองจัดงานสมรส

ในยามนั้นสิ่งก่อสร้างที่สร้างขึ้นระหว่างหน้าผาอลังการและสง่างามยิ่งนัก มิได้มีบรรยากาศมืดมนแต่อย่างใด

มีอาคารอยู่ทั้งสองข้างของสะพานเหล็ก ถนนหนทางกว้างขวาง ประดับประดาด้วยโคมไฟหลากสี แพรพรรณสีแดงปลิวไสว

เกี้ยวแต่งงานถูกหามจากฝั่งหนึ่งไปอีกฝั่งหนึ่ง บุรุษที่ขี่ม้าคือโหยวจิ้งเฉิง

สตรีในเกี้ยวมีริมฝีปากแดงระเรื่อ ฟันขาวสะอาด ดวงตาสุกใส มีท่าทางองอาจสง่างาม แต่ก็มิอาจซ่อนเร้นความเขินอายของความเป็นสตรีได้

นางเต็มไปด้วยความสุขในวันนี้ที่ได้แต่งงาน

ทว่าในคืนส่งตัวเข้าหอ สิ่งที่นางรอคอยมิใช่บุรุษมาเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาว แต่เป็นกระบี่ยาวแทงทะลุอกนาง

ขณะที่ผ้าคลุมหน้าสีแดงหลุดลงมา นางเห็นหน้าชายที่รักอย่างชัดเจน ในมือของเขาถือกระบี่ยาวที่แทงทะลุอกนาง

“เหตุใด?” นางเอ่ยทั้งน้ำตา

โหยวจิ้งเฉิงกลับมีสายตาคมกริบไร้ความปรานีราวกับเป็นคนละคนไปแล้ว

“ทนเจ้ามานานจนถึงบัดนี้ก็ถึงขีดจำกัดของข้าแล้ว คืนส่งตัวเข้าหอ ข้ามิอยากให้ค่ำคืนที่แสนสุขของข้ากลายเป็นฝันร้าย”

เมื่อกล่าวจบ โหยวจิ้งเฉิงก็ยัดยาเม็ดหนึ่งเข้าปากของอวี๋ตันเฟิ่ง จากนั้นก็แปะยันต์แผ่นหนึ่งลงบนหน้าผากของอวี๋ตันเฟิ่ง

เมื่อลั่วชิงยวนเห็นยันต์แผ่นนั้นก็ตกใจเล็กน้อย

ยันต์สะกดวิญญาณ

ใช้กับผู้ที่กำลังจะตาย เพื่อสะกดวิญญาณไว้ในร่าง แม้ตายไปวิญญาณก็จะมิหลุดลอยไปจากร่าง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย