ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 1409

“แน่นอน”

“อีกอย่าง เมื่อหาของเหล่านี้ครบแล้วเมืองแห่งภูตผีทั้งเมืองก็จะเป็นของพวกเรา แล้วยังต้องขึ้นเขาไปเอาของเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหาปะไร”

คำพูดนี้กระตุ้นความโลภในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างมิต้องสงสัย

พวกเขาจึงมิลังเลอีกต่อไป รีบติดตามลั่วชิงยวนไปยังเส้นทางเดิม

ตลอดทางยังมีงูมากมาย ลั่วชิงยวนก็หาสมุนไพรบางชนิดตลอดทางแล้วมอบให้ทุกคนผูกติดไว้บนตัวและทาตามเท้า เพื่อให้กลิ่นของสมุนไพรนั้นช่วยไล่งู

ดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นดี เมื่อยามค่ำคืนมาเยือนพวกเขาก็ออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนนั้นอีกครั้ง

พวกเขากลับมายังหมู่บ้านเดิมในช่วงกลางดึกสงัด

ในหมู่บ้านยังมีอาหารหลงเหลืออยู่ ดังนั้นทุกคนจึงหยุดพักกินอาหารกันก่อน

เมื่อฟื้นฟูพละกำลังได้แล้วคนทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อ

มาถึงสุสานเดิม ยามนี้วิญญาณอาฆาตเต็มไปทั่วทั้งภูเขา พลังหยินแผ่ซ่านไปทั่ว

เมื่อลั่วชิงยวนมาถึงที่แห่งนั้นก็พบว่าปากถ้ำเปิดออกแล้ว

มีคนกล่าวขึ้นว่า “วันนั้นฝูเหมิ่งก็มาที่นี่!”

ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อย

เมื่อเข้าไปในถ้ำแล้ว ภาพที่ปรากฏด้านในนั้นมิเปลี่ยนแปลงมากนัก สิ่งที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวคือโลงศพที่ถูกล่ามโซ่นั้นระเบิดออกแล้ว

ในถ้ำเต็มไปด้วยความวุ่นวาย มีร่องรอยการต่อสู้มากมาย และบนพื้นยังมีศพนอนอยู่หนึ่งร่าง

ลั่วชิงยวนเข้าไปตรวจสอบ และเมื่อพลิกร่างของศพก็ต้องตกตะลึง

นี่คือโหยวจิ้งเฉิง!

อาภรณ์ที่เขาสวมใส่อยู่นั้นก็เหมือนกับของศพชายทั้งสองก่อนหน้านี้

ศพชายในถ้ำแห่งนี้ที่แท้ก็คือโหยวจิ้งเฉิง!

แล้วสิ่งที่ถูกใช้ในการเฝ้าอวี๋ตันเฟิ่งก็ยังมีโหยวจิ้งเฉิงเองด้วยหรือ?

เขาเต็มใจกระนั้นหรือ?

คิดไปแล้วฝูเหมิ่งคงกลืนกินโอสถศพของโหยวจิ้งเฉิงไป โหยวจิ้งเฉิงจึงเข้าสิงร่างของฝูเหมิ่ง

ลั่วชิงยวนเปิดกลไกของรูปปั้นหิน แล้วยกหีบด้านในออกมา

คราวนี้ฉีเสวี่ยเวยก็อาสาขึ้นมา "ข้าถือเอง"

ถูหมิงกลับกล่าวว่า "เจ้าเป็นสตรี ยกมิไหวหรอก"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย