ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 1416

“เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”

เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือ

ลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้

ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมา

เมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”

ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”

“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”

“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”

โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”

เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”

“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”

“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”

“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผู้ใด มิเช่นนั้นเหตุใดเจ้าถึงลงมาจากเขาเพียงลำพังเล่า”

คิดว่าต่งอวิ๋นซิ่วคงได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงมิสามารถห้ามโหยวเซียงมิให้ลงจากภูเขาได้

ตอนนี้โหยวเซียงมิเชื่อคำพูดของลั่วชิงยวนแม้แต่คำเดียว

นางกล่าวด้วยความโกรธจัดว่า “เจ้าต้องการจะทำอะไรกันแน่! จะฆ่าข้าก็ฆ่าเลย! ถึงข้าจะกลายเป็นผี ข้าก็ไม่มีวันปล่อยเจ้าไป!”

นางต้องแก้แค้นให้ลูกและตู้เฟิงเฉินให้ได้!

ลั่วชิงยวนดึงนางขึ้นจากพื้น “ข้าต้องการให้เจ้าพาข้าขึ้นเขาไป”

“มีเรื่องแค้นที่ต้องสะสางกับมารดาของเจ้าต่อหน้า”

โหยวเซียงแค่นหัวเราะเยาะ “ฝันไปเถอะ! แม้ว่าพวกเจ้าจะฆ่าข้าตอนนี้ ข้าก็ไม่มีวันพาพวกเจ้าขึ้นเขาไป!”

การพาพวกนางขึ้นเขาไปก็เท่ากับพาศัตรูเข้าบ้าน

เมื่อเห็นท่าทีมิยอมแพ้ของโหยวเซียง ลั่วชิงยวนจึงล้มเลิกความคิดที่จะเกลี้ยกล่อม

อวี๋ตันเฟิ่งกล่าวเสียงเย็น “ในเมื่อมีแผนที่อยู่แล้วก็ฆ่าทิ้งแล้วขึ้นไปเลยสิ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย