ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 1430

จดหมายเหล่านั้นเขียนถึงครอบครัวของนาง

ดูเหมือนว่าจะถูกเขียนขึ้นในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน

ลั่วชิงยวนมิได้เปิดอ่าน

นี่คงเป็นจดหมายที่อวี๋ตันเฟิ่งเขียนหลังจากที่นางแยกทางกับครอบครัว เป็นคำพูดในใจที่อยากจะกล่าวแต่ก็มิอาจกล่าวได้

คิดดูแล้วหลังจากที่นางถูกโหยวจิ้งเฉิงฆ่า นางคงรู้สึกเสียใจที่มิได้ส่งจดหมายเหล่านี้ออกไป

อย่างน้อยก็คงพอจะบอกข่าวคราวให้คนในครอบครัวได้ทราบบ้าง จะได้มิเงียบหายไปนานถึงเพียงนี้

ลั่วชิงยวนมิรู้ว่าตอนนี้จะยังสามารถหาบิดามารดาและพี่น้องของอวี๋ตันเฟิ่งได้หรือไม่ แต่นางจะนำจดหมายเหล่านี้ลงจากเขาไปด้วย เพราะนี่เป็นหลักฐานว่านางเคยพบกับอวี๋ตันเฟิ่ง

เมื่อได้สิ่งของครบถ้วนแล้ว พวกนางก็เตรียมตัวลงจากเขา

เนื่องจากคนใบ้มิยอมเดินทางไปกับพวกนางด้วย ลั่วชิงยวนจึงกำชับลุงเฉิงให้จัดคนไปส่งคนใบ้ลงจากเขา

ในขณะที่กำลังออกกันไป ฟู่เฉินหวนที่ยืนอยู่บนยอดเขากำลังทอดสายตามองลงมาเงียบเชียบ ต้นไม้ในป่าหนาทึบ เขามองมิเห็นเงาร่างของลั่วชิงยวนเลย

เวลาผ่านไปรวดเร็วจริง ๆ รู้สึกว่ายังไม่มีเวลาได้อยู่ด้วยกันนานเท่าไหร่ก็ต้องจากกันอีกแล้ว

“ชิงยวน หวังว่าคราวหน้าที่จะได้พบกันคงจะมิใช่ในสถานการณ์ที่อันตรายเช่นนี้”

ขณะที่กำลังลงจากเขา จู่ ๆ ลั่วชิงยวนก็หยุดเดินแล้วเหลียวมองไปยังยอดเขา

เฉินชีหันมามองนาง “มีกระไรหรือ?”

ลั่วชิงยวนหันกลับมา แล้วเดินลงเขาต่อ “เพียงแค่รู้สึกอาลัยอาวรณ์เพราะอยู่ที่นั่นนานเกินไปเท่านั้น”

เฉินชียกยิ้มจาง “แต่ที่นั่นมิใช่ที่ของเจ้าสักหน่อย ตำแหน่งเจ้าเมืองเล็ก ๆ จะไปสำคัญกระไร เจ้าต้องเป็นนักบวชระดับสูงต่างหาก!”

ลั่วชิงยวนมิได้เอ่ยคำใด

หลังจากลงจากเขาแล้วก็เห็นว่ารถม้าของเฉินชีเตรียมพร้อมเรียบร้อย กองทหารก็รอคอยอยู่อย่างเป็นระเบียบ

ลั่วชิงยวนและอวี๋โหรวนั่งรถม้าคันเดียวกัน

การเดินทางค่อนข้างไกล กอปรกับถนนหนทางขรุขระ เมื่อออกเดินทางไปได้มินานลั่วชิงยวนก็เผลอหลับไป

ในขณะที่หลับ ๆ ตื่น ๆ อยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีเสียงเรียกข้างหูดังขึ้น

“ชิงยวน กินยาได้แล้ว ตื่นเร็ว”

ลั่วชิงยวนสงสัยว่าเหตุใดจึงเป็นเสียงบุรุษ และเสียงก็มิเหมือนเสียงของเฉินชีด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย