ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 147

ลั่วหรงเดินออกมาแล้วคว้ามือของลั่วชิงยวนไว้ สีหน้าของนางดูเคร่งขรึมก่อนหน้านี้ นางพูดเสียงจริงจังว่า “ไปคุยกันที่เรือนข้า”

……

หลังจากที่นั่งลงในห้องและปิดประตูเรียบร้อยแล้ว ลั่วหรงก็บอกว่า “ข้ารู้ว่าเจ้าต้องมีคำถามมากมาย แต่ข้าบอกเจ้าเรื่องปัญหาวุ่นวายที่เกิดขึ้นในตำหนักที่ท่านอ๋องบอกมาได้”

“เรื่องนี้เป็นเรื่องต้องห้ามของในวังและเมืองนี้ เจ้าห้ามเอ่ยถึงเรื่องนี้ เจ้าต้องไม่พูดถึงเรื่องนี้นอกวังด้วย”

แม้ลั่วชิงยวนจะรู้ว่าท่านอาลั่วหรงนั้นไม่อยากให้นางรู้เรื่องนี้ก็เพื่อประโยชน์ของนางเอง แต่นางก็ยิ่งอยากรู้เมื่อได้ยินเช่นนี้

นางกลัวว่าน่าจะเป็นฟู่เฉินหวนที่บอกท่านอาว่าไม่ให้บอกนาง และใช้ข้ออ้างว่าเป็นไปเพื่อผลดีต่อตัวนางเอง

ลั่วชิงยวนไม่ได้บังคับฝืนใจ นางเพียงพยักหน้า “เจ้าค่ะ เช่นนั้นข้าก็จะไม่ถาม”

“เพียงแต่ว่าท่านอาทราบหรือยังว่าใครกันที่เป็นหนอนบ่อนไส้? ในเมื่อคราวนี้แผนใหญ่ของมันผู้นั้นล้มเหลว ไม่แน่ว่าจะไม่ลงมือครั้งที่สอง”

ลั่วหรงพูดเสียงเคร่งเครียด “เจ้าก็ได้เห็นความมีเกียรติของท่านปู่เจ้าแล้ว ตระกูลของเรามิเคยล่วงเกินใคร แม้ว่าเราอาจจะมีเรื่องมีราวกับบิดาของเจ้าแต่นั้นก็เป็นเพียงปัญหาในตระกูลเท่านั้น”

เมื่อพูดจบ นางก็ถอนใจอีกหน “เมื่อมาคิดถึงเรื่องนี้ เขาอาจจะมุ่งเป้ามาที่ท่านอ๋องก็ได้ ข้าหวังว่าหลังจากเรื่องวันนี้ ตระกูลเราจะได้สงบสุขเสียที”

ลั่วชิงยวนอดไม่ได้ที่จะนิ่วหน้า ผู้นั้นมุ่งเป้ามาที่ฟู่เฉินหวนงั้นหรือ? คงเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าแผนนี้วางมานานนับปี อีกอย่างเรื่องของภาพวาดนั้นก็เริ่มมาเมื่อหลายปีก่อน

นางรู้สึกว่า ท่านอาลั่วหลงต้องปกปิดเรื่องบางอย่างไว้แน่นอน

แต่นางก็ไม่ได้เค้นถามอันใดต่อ เรื่องนี้อาจจะเกี่ยวพันกับบางเรื่องที่ใหญ่มาก ดังนั้นจึงไม่สะดวกใจที่จะบอกให้นางรู้

และก็เป็นไปได้ว่า ฟู่เฉินหวนอาจจะเป็นคนสั่งไม่ให้ท่านอาบอก

“ข้าจะตรวจตราจวนอย่างละเอียดแล้วขับไล่สิ่งอัปมงคลออกไปจากจวนมหาราชครู อีกสองสามวันข้าจะเลือกของมาไว้ในจวนเพื่อปกป้องวิญญาณชั่วร้ายเจ้าค่ะ”

ลั่วหลงพยักหน้า ก่อนยิ้มและตบหลังมือนางเบา ๆ “ขอบใจเจ้ามากแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย