ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 1470

เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวหัวหนิงก็ขมวดคิ้วแน่น มองนางอย่างระแวดระวัง “ข้ามิเข้าใจว่าท่านหมายความว่าเช่นไร”

กล่าวจบนางก็หันหลังเดินจากไป

เวินซินถงกล่าวเสียงเย็น “ลั่วชิงยวน!”

“นางเข้าใกล้พวกท่านย่อมเป็นเพราะมีจุดประสงค์บางอย่าง!”

“ข้ามิหลอกลวงท่าน ข้าคือนักบวชระดับสูง”

เวินซินถงกล่าวอย่างหนักแน่น

ฝีเท้าของโหยวหัวหนิงหยุดชะงัก เมื่อได้ยินคำว่านักบวชระดับสูงก็ตกตะลึง

จากนั้นจึงสงบลงแล้วกล่าวว่า “นางจะมีจุดประสงค์อะไร ท่านเจ้าเมืองย่อมวินิจฉัยได้”

“พวกเรามิเคยมีเรื่องบาดหมางกับท่านนักบวชระดับสูง ขอท่านนักบวชระดับสูงโปรดเมตตาด้วย”

กล่าวจบ โหยวหัวหนิงก็เตรียมจะเดินจากไป

“ช่างดื้อรั้นยิ่งนัก!” เวินซินถงกล่าวด้วยน้ำเสียงมิพอใจ

จากนั้นก็ก้าวเข้าไปใช้ฝ่ามือสับโหยวหัวหนิงจนสลบไปทันที

นางหยิบกระสอบออกมา และย่อตัวลงยัดโหยวหัวหนิงเข้าไป

“หากเจ้าหายตัวไป ข้าจะดูว่าลั่วชิงยวนจะอธิบายเช่นไร!”

หลังจากยัดลงกระสอบแล้ว เวินซินถงก็แบกโหยวหัวหนิงขึ้นอย่างทุลักทุเลแล้วรีบหายไปในตรอกซอยอย่างรวดเร็ว

นางพาโหยวหัวหนิงไปซ่อนไว้ในเรือนเล็กอันเงียบสงัดแห่งหนึ่ง

จากนั้นก็เขียนจดหมายฉบับหนึ่งให้คนส่งไปยังจวนเจ้าเมือง

......

หลังจากที่ลั่วชิงยวนและอีกสองคนออกจากร้านโอสถ ก็ไปยังตลาดสดเพื่อตามหาโหยวหัวหนิง

แม้จะเดินหาทั่วตลาดแล้วแต่กลับหาโหยวหัวหนิงมิพบ

กว่าจะรู้ตัว ฟ้าก็มืดแล้ว

ตลาดสดเริ่มเก็บแผง พากันเปลี่ยนสินค้าเป็นของแปลกประหลาดอื่น ๆ การค้าขายของตลาดมืดกำลังจะเริ่มต้นขึ้น

โฉวสือชีกล่าวว่า “หรือว่านางมิได้รอพวกเรา รีบร้อนกลับไปทำอาหารแล้ว?”

ลั่วชิงยวนพยักหน้า “ก็เป็นไปได้ เช่นนั้นกลับกันเถิด”

ที่นี่คือตลาดมืด โหยวหัวหนิงคงไม่มีอันตรายอะไร

ทั้งสามจึงกลับไปยังจวนเจ้าเมือง

แต่เมื่อมาถึงหน้าประตู ทันใดนั้นเองผู้คุ้มกันกลุ่มหนึ่งก็พุ่งเข้ามาล้อมพวกนางไว้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย