ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 1490

ถนนหนทางประดับประดาด้วยโคมไฟหลากสี สว่างไสวครึกครื้น ลั่วชิงยวนได้กลิ่นหอมประหลาดลอยมาเตะจมูก นางเดินตามหาทั่วทั้งถนนจึงมาพบในตรอกเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง

เพียงแต่โรงสุราในตรอกนั้นกลับมีผู้คนต่อแถวยาวเหยียด

ลั่วชิงยวนเขย่งเท้าชะโงกมองแถวยาวเหยียดเบื้องหน้า แล้วก็อดมิได้ที่จะถามคนข้างหน้า “สุราที่นี่เลื่องชื่อมากหรือ? เหตุใดจึงมีคนมาซื้อมากมายถึงเพียงนี้”

ถึงแม้นางจะได้กลิ่นสุรา แต่ความคึกคักของโรงสุราแห่งนี้กลับทำให้นางประหลาดใจ

คนเบื้องหน้าหัวเราะแล้วกล่าวว่า “สิ่งที่ขายที่นี่มิใช่สุราธรรมดา แต่เป็นสุราแห่งวันเพ็ญเดือนเจ็ด”

“กล่าวกันว่า จอกหนึ่งส่งวิญญาณสหายเก่าเข้าฝัน สองจอกสื่อถึงหล้าวิญญาณ สามจอกสามารถพบพานคนที่คิดถึงได้อีกครั้ง”

เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “แล้วมันศักดิ์สิทธิ์เช่นนั้นจริงหรือ?”

อีกฝ่ายหัวเราะ “ศักดิ์สิทธิ์หรือมิศักดิ์สิทธิ์ คนเราก็อยากจะมีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ”

“หากมิศักดิ์สิทธิ์ ก็อาจจะเป็นเพราะคนที่เจ้าอยากพบมิอยากมาพบเจ้า”

ลั่วชิงยวนใจหายวูบ

ความรู้สึกเศร้าโศกพลันถาโถมเข้ามา

ภาพฟู่เฉินหวนครั้นสิ้นชีพผุดขึ้นในห้วงความคิด

นางเจ็บแปลบในอก

นางหันไปมองคนใบ้ “อาถู่ ข้าอยากต่อแถวซื้อสุรา หากเจ้ามิอยากรอก็ไปเดินเล่นในตลาดก่อนก็ได้”

คนใบ้กลับส่ายหน้า มิได้จากไป

เขาอยู่ต่อแถวเป็นเพื่อนกับนาง

แถวยาวเหยียดทำให้ต้องรอคอยนานมาก แต่ถนนสายนี้กลับเงียบสงัดราวกับทุกคนที่ต่อแถวต่างมีจิตใจหนักอึ้ง

บางทีอาจเป็นเพราะความคิดถึงคนในใจนั้นหนักอึ้งเกินไป

หลังจากรอคอยมาเป็นเวลานาน ในที่สุดก็ถึงหน้าโรงสุรา

ที่นี่ขายสุราเพียงชนิดเดียว สุราทั้งหมดบรรจุในเหยือกและขายทีละเหยือก

ลั่วชิงยวนซื้อมาเหยือกหนึ่ง

นางถามคนใบ้ว่าจะซื้อหรือไม่ คนใบ้ครุ่นคิดแล้วส่ายหน้า

แต่ลั่วชิงยวนกลับหยิบมาอีกเหยือก

หลังจากเดินออกจากตรอก ลั่วชิงยวนก็ไปยังเนินเขาในป่าแห่งหนึ่ง นางเงยหน้ามองแสงจันทร์แล้วรินสุราสามจอกลงบนพื้น

“เห็นแก่ความผูกพันในอดีต วันนี้ข้ายังคงคารวะท่านจอกหนึ่ง แต่… ท่านมิจำเป็นต้องเข้ามาในความฝันของข้า”

“ข้าคิดว่าท่านก็คงมิอยากพบข้าเช่นกัน”

ลั่วชิงยวนเผยรอยยิ้มจาง รอยยิ้มแฝงความขมขื่น จากนั้นก็ยกเหยือกสุราขึ้นดื่มอึกหนึ่ง

บทที่ 1490 1

บทที่ 1490 2

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย