นางรู้สึกเย็นสันหลังวาบทันใด
ท่านหมอเทวดากู้นั้นมายืนมองนางตรงนั้นนานแค่ไหนแล้ว?
เขาได้ยินทุกสิ่งที่นางคุยกับซูโหยวหรือไม่?
ลั่วชิงยวนยิ้มโดยที่ไม่เปลี่ยนสีหน้า ก่อนบอกว่า “ดูจากอาการที่ท่านอ๋องเป็นตอนนี้ มันช่างเหมือนกับตอนที่มีเหตุผิดปกติในตำหนักและมีบ่าวรับใช้คลุ้มคลั่งเลยใช่หรือไม่?”
“ตอนนี้ท่านอ๋องต่อต้านข้านัก ข้าก็จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของพวกท่านหรอก เพียงแต่อยากเตือนไว้บ้างก็เท่านั้น”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ซูโหยวก็ตัวแข็งทื่อและรู้สึกในใจเย็นเยียบ
เมื่อพระชายาพูดขึ้นมาก็ดูเหมือนว่า อาการของท่านอ๋องในคืนนี้จะเหมือนเรื่องคืนก่อนนั้นมาก เป็นไปได้ไหมว่าท่านอ๋องโดนวิญญาณร้ายบางตนสิงสู่?
“ขอรับ ขอบคุณที่พระชายาช่วยเตือนข้า”
ลั่วชิงยวนไม่พูดอะไรอีก นางเดินกลับเรือนไป
นางเองก็ได้ยินเสียงซูโหยวจากไปแล้ว แต่นางยังคงรู้สึกได้ถึงแววตาน่าหวาดหวั่นที่มองมา
ต้องมีบางอย่างไม่ปกติกับหมอเทวดากู้เป็นแน่
ตำหนักอ๋องและจวนมหาราชครูต่างก็เกี่ยวข้องกัน นางกลัวว่า คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้จะมีมือเท้ายาวไกล และท่านหมอกู้เองก็อาจจะเป็นหนึ่งในคนกลุ่มนั้น
นางคิดเรื่องนี้ขณะที่เดินกลับเรือน
“พระชายา ท่านอ๋องล่ะเจ้าคะ…” แม่นมเติ้งถามอย่างเป็นกังวล
ลั่วชิงยวนส่ายหน้า “ไม่มีอะไรหรอก ไม่ต้องห่วง”
แต่แม่นมเติ้งเห็นรอยช้ำรอบคอของนาง “แต่พระชายา คอของท่าน…”
ลั่วชิงยวนยกมือขึ้นแตะลำคอที่เจ็บปวด ก่อนเดินเข้าห้องไป “ไม่เป็นไร”
แม่นมเติ้งเข้ามาช่วยนางในห้อง ให้นางได้พักผ่อนและบอกว่า “บ่าวขอบอกตรง ๆ นะเจ้าคะ คุณหนูรองลั่วยังคงคร่ำครวญเรื่องแผลของนางไม่เลิกแล้วตอแยให้ท่านอ๋องหายาให้นางอยู่เลย”
“ท่านอ๋องหลบหน้าคุณหนูรองลั่วมาตั้งเดือน ตอนนี้นางก็หาโอกาสอยู่ นางจะไม่สร้างปัญหาให้ท่านอ๋องหรือเจ้าคะ? นางไปร้องไห้คร่ำครวญในห้องท่านอ๋องไม่หยุดคืนนี้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
กำลังสนุกเลยค่ะต่อๆค่ะ...
เนื้อเรื่องไม่มีความฉลาดเลย แต่ละคน บ้าบอมาก...
ตายๆ ไปซะ นางเอกไร้น้ำยา ทำอะไรก้ไม่ได้ดีซักอย่าง...
พระชายยา เหี้ยไร ไร้น้ำยาสิ้นดี เหมือนนางทาส...
นางเอกก็หน้าด้านชิบหาย ผัวเกลี่ยดขนาดนี้ ก็ยังหน้าด้านทน...
🫠...
อ๋องคือโง่มากอะ เหมือนจะฉลาดแต่ก็ไม่พกสติเลย นางเอกก็โดนทรมานเกิน...
กลับมาแล้ว ว้าวววววววววววว...
หายยาววววววววววววว😒😒😒...
อัพต่อหน่อยค่ะแอด พลีสสสสสสสสสสสส...