เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ลั่วอวิ๋นสี่ก็โมโหมากเสียจนกระทืบเท้าเดินจากไป
หลังจากทุกคนจากไปแล้ว ซูโหยวก็รีบสั่งทหารยามให้ไล่ชาวบ้านที่มามุงอยู่ไป
ฟู่เฉินหวนมองลั่วชิงยวนสายตาลึกล้ำและตะลึงมาก การที่สามารถนิ่งสงบได้ทั้งที่โดนแม่ทัพใหญ่ฉินตั้งคำถามคาดคั้นอยู่นั้นไม่ใช่เรื่องที่สตรีทั่วไปทำได้
วันนี้ลั่วชิงยวนน่าประทับใจยิ่ง
ตอนนั้นเองลั่วขิงยวนประทับใจกับฉากที่เห็นภายในประตูตำหนักอ๋อง
เวินซีหลานอุ้มลูกชายของนางที่กำลังร้องไห้เสียงดังไว้
“ท่านพ่อไปแล้ว… ท่านแม่ ท่านพ่อไม่ต้องการพวกเราอีกแล้ว…”
เวินซีหลานดวงตาแดงก่ำและมีน้ำตาเอ่อคลอ นางปลอบบุตร “ไม่หรอก ท่านพ่อของเจ้ามิใช่ไม่ต้องการพวกเรา เขาก็แค่มองไม่เห็นพวกเราเท่านั้น”
เด็กน้อยยิ่งร้องไห้หนักขึ้น “หากว่าเขาต้องการตามหาพวกเราจริง ไยเขาถึงได้พกของมีประกายเช่นนั้น? เขาไม่อยากให้พวกเราเข้าใกล้”
“ท่านแม่ ท่านคิดว่าท่านพ่ออยากจะมีลูกกับสตรีคนนั้นแล้วไม่ต้องการเราอีกแล้วหรือไม่ ท่านปู่เองก็ไม่ต้องการพวกเราเหมือนกัน…”
ฉินเยี่ยนเอ๋อร์ร้องไห้อย่างเศร้าโศก เขารู้สึกปวดใจมาก
ใช่แล้ว หากฉินไป๋หลี่ไม่ได้พกยันต์นั่น เวินซีหลานและบุตรชายของนางก็สามารถเข้าใกล้ฉินไป๋หลี่ได้
นางคิดว่ายันต์นั้น หลิวฮุ่ยเซียงต้องเป็นคนมอบให้แน่ ไม่แน่ว่าอาจจะเพราะนางหวาดกลัวเขาจะมาพัวพันกับเวินซีหลานหรือเพื่อสงบใจ
พวกเขาต้องกำจัดของสิ่งนั้นบนตัวของฉินไป๋หลี่และแม่ทัพใหญ่ฉินก่อนที่เวินซีหลานและลูกชายจะสามารถเข้าใกล้พวกเขาได้
วันนี้นางได้รู้แล้วว่าฉินไป๋หลี่นั้นไม่มีปากเสียงอะไรได้ ดังนั้นนางต้องรับมือกับแม่ทัพใหญ่ฉินเสียก่อน
ครั้งหน้านางทำได้เพียงรอให้แม่ทัพฉินมาหานางด้วยตัวเอง
ขณะที่นางคิดเรื่องนี้ก็รู้สึกได้ถึงสายตาที่จับจ้องมาเขม็ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
กำลังสนุกเลยค่ะต่อๆค่ะ...
เนื้อเรื่องไม่มีความฉลาดเลย แต่ละคน บ้าบอมาก...
ตายๆ ไปซะ นางเอกไร้น้ำยา ทำอะไรก้ไม่ได้ดีซักอย่าง...
พระชายยา เหี้ยไร ไร้น้ำยาสิ้นดี เหมือนนางทาส...
นางเอกก็หน้าด้านชิบหาย ผัวเกลี่ยดขนาดนี้ ก็ยังหน้าด้านทน...
🫠...
อ๋องคือโง่มากอะ เหมือนจะฉลาดแต่ก็ไม่พกสติเลย นางเอกก็โดนทรมานเกิน...
กลับมาแล้ว ว้าวววววววววววว...
หายยาววววววววววววว😒😒😒...
อัพต่อหน่อยค่ะแอด พลีสสสสสสสสสสสส...