ลมราตรีพัดมา เสียงกุกกักเหล่านั้นได้กลับมาอีกครั้ง
และเสียงในคืนนี้ ดังยิ่งกว่าคืนอื่น ๆ
โดยเฉพาะฝั่งเรือนเล็ก ถึงกับมีเสียงกรีดร้องส่งมา
เสียงนั้นวุ่นวายจนฟังดูมิสมจริง ต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่ ๆ
ลมแรงพัดให้ประตูห้องโยกเยก เสียงที่ดังมา ราวกับมีคนกำลังผลักประตูจากด้านนอก
จือเฉากลัวจนกอดแขนลั่วชิงยวนไว้แน่น “พระชายา นี่มัน…”
ลั่วชิงยวนตบมือนางเบา ๆ “ข้าออกไปตรวจดูเอง”
“เจ้าอยู่ในห้องอย่าวิ่งไปที่อื่น”
จือเฉารู้สึกกังวล ”พระชายา…”
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องกลัว” ลั่วชิงยวนตบบ่าของนางเป็นการปลอบ
จากนั้นจึงเปิดประตูเดินออกไปคนเดียว
นี่เป็นครั้งแรกที่ลั่วชิงยวนออกจากห้องตอนกลางดึกหลังมาอยู่ที่จวนนอกเมือง
ลมหนาวด้านนอกแฝงไปด้วยไอมืดครึ้ม พัดให้ตะเกียงใต้ชายคาสั่นคลอนไปมา เสียงใบไม้ดังขึ้นซ่า ๆ จวนกว้างที่เปลี่ยวร้างบัดนี้ยิ่งเหมือนจวนผีสิงเข้าไปทุกที
ลานหน้าจวนมิมีสิ่งใด เสียงนี้ส่งมาจากทางเรือนเล็ก
ลั่วชิงยวนก้าวฝีเท้ามั่นคงไปทางเรือนเล็ก
จากนั้นจึงเห็นร่องรอยคดเคี้ยวบนพื้นเป็นจำนวนมาก
นางขมวดคิ้ว นี่มันงู!
บัดนี้ภายในเรือน สวี่ชิงหลินกำลังปกป้องซ่งเชียนฉู่ เขาใช้ดาบฟันงูบนพื้น
งูที่ยิ่งอยู่ยิ่งมากมุดเข้ามาทางกำแพงจวน และรูโหว่ต่าง ๆ เสียงเลื้อยคลานของมัน ทำเอาคนได้ยินขนหัวลุก
ซ่งเชียนฉู่โรยผงไล่งู เพื่อให้งูเหล่านั้นถอยออกไป แต่วินาทีต่อมามีลมกระโชก พัดให้ผงไล่งูของนางสลาย ลอยอยู่กลางอากาศพร้อมปลิวไปกับลม
ทันใดนั้น งูตัวหนึ่งกัดเข้าที่ข้อเท้าของสวี่ชิงหลิน เจ็บปวดจนเขาต้องคุกเข่าล้มลงบนพื้น
“พี่สวี่!” ซ่งเชียนฉู่ตกใจ จากนั้นจึงรีบโรยผงไล่งูเป็นกำ
แม้จะถูกลมพัดหาย แต่ก็สามารถไล่ให้พวกมันถอยห่างไปครู่หนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
หลงเข้ามาอ่านเสียเวลาตั้งนาน ในเรื่องมีแต่พวกสติไม้เต็ม พระเอกปัญญาอ่อน+ ไบโพล่า กลับกลอกชิบหาย นางเอกก็โง่จนเอียนหวังพึ่งพอ ช่วยพอ.มันทำห่าอะไร ทำดีไม่เคยได้ดี ประสาทแดก...
นังเอกนี่ควายมั้ย โง่บรม...
กำลังสนุกเลยค่ะต่อๆค่ะ...
เนื้อเรื่องไม่มีความฉลาดเลย แต่ละคน บ้าบอมาก...
ตายๆ ไปซะ นางเอกไร้น้ำยา ทำอะไรก้ไม่ได้ดีซักอย่าง...
พระชายยา เหี้ยไร ไร้น้ำยาสิ้นดี เหมือนนางทาส...
นางเอกก็หน้าด้านชิบหาย ผัวเกลี่ยดขนาดนี้ ก็ยังหน้าด้านทน...
🫠...
อ๋องคือโง่มากอะ เหมือนจะฉลาดแต่ก็ไม่พกสติเลย นางเอกก็โดนทรมานเกิน...
กลับมาแล้ว ว้าวววววววววววว...