ลั่วชิงยวนโกรธมาก นางเตะประตูอย่างแรง ลั่วไห่ผิงหลีกเลี่ยงเรื่องของแม่นางอย่างเห็นได้ชัด มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ลั่วไห่ผิงมีความลับอะไรกัน?
"พระชายา เหตุใดพวกเขาถึงขังท่านไว้เช่นนี้เล่าเจ้าคะ?" จือเฉาไปหาอาหารและนำกลับมา แต่ประตูกลับถูกล็อกไว้
"ข้าไม่เป็นไร เจ้าไม่ต้องเป็นกังวล" ลั่วชิงยวนนั่งลงบนเก้าอี้อย่างอ่อนแรง คิดหาวิธีการตรวจสอบต่อไป
ในความเงียบ ท้องก็ร้องโครกครากด้วยความหิว แต่ประตูและหน้าต่างต่างก็ถูกล็อก จือเฉามิสามารถนำอาหารเข้ามาได้ ลั่วชิงยวนทำได้เพียงอดทนกับความหิว และนอนลงบนเตียงเพื่อหลับหนีความหิว
……
รุ่งสางของวันถัดมา ก่อนที่ลั่วชิงยวนจะตื่นขึ้นมา นางได้ยินเสียงปลดล็อกกุญแจ นางลืมตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือ และเห็นนักพรตเต๋าในชุดสีเหลือง ถือดาบไม้ท้อ สั่นกระดิ่ง และเดินเข้ามาพลางพึมพำอะไรอยู่ในปาก
ลั่วชิงยวนพยุงร่างกายของตัวเองขึ้นมา พลางขมวดคิ้ว นักพรตเต๋า?
“มีวิญญาณชั่วร้ายล้อมรอบสถานที่แห่งนี้” นักพรตเต๋าสังเกตห้องอย่างเคร่งขรึม จากนั้นดวงตาของเขาก็จับจ้องไปที่ร่างของลั่วชิงยวน "วิญญาณชั่วร้ายรวมตัวกันอยู่ที่นางผู้นี้นี่เอง"
จากนั้นลั่วไห่ผิงก็เดินเข้ามาในห้อง พร้อมกับทำความคารวะต่อนักพรตเต๋า "ท่านนักพรตเต๋าพูดถูก นางคือบุตรสาวของข้า นางทำตัวผิดแปลกไป ราวกับโดนอาคม หากมีสิ่งชั่วร้ายในตัวนางจริง ข้าหวังว่าท่านนักพรตเต๋าจะช่วยกำจัดมันออกไปให้นาง”
ลั่วชิงยวนหัวเราะ สิ่งชั่วร้าย? โดนอาคม?
"ท่านเกรงใจเกินไปแล้ว นี่คือหน้าที่ของสาวกในลัทธิเต๋า อนุญาตให้อาตมาตั้งแท่นบูชาประกอบพิธีกรรมขับไล่วิญญาณชั่วร้ายและรักษาโรคต่าง ๆ และทำให้จวนนี้กลับมาสงบสุขอีกครั้งเถิด"
นางมองไปที่นักพรตเต๋า และภายใต้เสื้อคลุมคือรองเท้าผ้าไหมลายเมฆสีทองคู่หนึ่งซึ่งมีราคาแพง เมื่อมองไปที่คิ้วและดวงตาเขาอีกครั้ง ตาไม่ซื่อตรง มีแววค่อนข้างพร่ามัว ลักษณะที่เป็นคนทรยศ เพื่อแสวงหาผลกำไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังงานสีดำรวมตัวกันระหว่างคิ้ว มีร่องรอยของเลือด ดูเหมือนว่าเขาได้หลอกลวงผู้คนมามากมาย และผลกรรมกำลังจะตามมา เอาตัวเองยังไม่รอด แล้วยังจะกล้ามาขับไล่วิญญาณให้นางอีกอย่างนั้นหรือ?
"แล้วต้องเตรียมอะไรบ้างหรือ? และต้องใช้เวลากี่วัน? ข้าอยากให้ลงมือโดยเร็วที่สุด!" ลั่วไห่ผิงพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เขาเชื่ออย่างสนิทใจ
นักพรตเต๋าคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า "เร็วที่สุดก็หนึ่งวัน อาตมาสามารถให้สาวกไปเตรียมสิ่งของต่าง ๆ ได้ แต่วัสดุที่จำเป็นอาจจะต้องใช้เงินจำนวนมาก"
“นายท่านโปรดจงวางใจเถิด!”
จากนั้นลั่วไห่ผิงก็จากไป และถูกจือเฉาที่อยู่นอกสนามตะโกนเสียงดังเรียกเอาไว้ "ท่านอัครเสนาบดี ท่านทำกับพระชายาเช่นนี้ได้อย่างไรเจ้าคะ!"
น้ำเสียงของลั่วไห่ผิงเย็นชา "เรื่องนี้ท่านอ๋องทรงอนุญาตแล้ว! ข้าสัญญากับท่านอ๋องไว้แล้วว่า ข้าจะคืนพระชายาที่ปกติให้แก่ท่าน! สำหรับเรื่องในวันนี้ หากทาสอย่างเจ้ากล้าเอาไปพูดล่ะก็ ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะเป็นทาสจากจวนใด! จะต้องถูกลงโทษอย่างสาสม!”
จือเฉายกมือปิดปากตัวเองด้วยความเสียใจ มองไปยังเรือนที่ปิดตาย และร้องไห้อย่างกังวลใจ ทำอะไรไม่ถูก
ท่านอ๋องทรงรังเกียจพระชายา และครอบครัวคือที่ที่พระชายาจะสามารถพึ่งพิงได้ ใครเล่าจะคิดว่า นี่มันยิ่งกว่าหลุมไฟ
ใครจะสามารถช่วยพระชายาได้กัน...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...