ลั่วหลางหลางตะลึง “เพื่อข้าหรือ?”
ขอบตาของลั่วอวิ๋นสี่แดงก่ำ นางพยายามกลั้นน้ำตาที่เอ่อล้นในดวงตา “ท่านพี่มิชอบงานแต่งที่ท่านแม่จัดให้ เจ้าก็พูดสิ! เจ้าต่อต้านสิ! ไฉนเจ้ามิยอมพูดอันใดทั้งนั้น แต่มาแอบเสียใจคนเดียวเล่า!”
“เป็นเช่นนี้ตั้งแต่เด็กจนโต! เจ้ารู้หรือไม่ในใจข้าเสียใจเพียงใด! ครั้งนี้ท่านแม่ยืนหยัดที่จะหาคู่แต่งงานให้เจ้า ข้าจึงได้แต่ต้องสร้างเรื่อง เพื่อที่ท่านแม่จะได้มิมีเวลามาสนใจเจ้า!”
ในใจลั่วอวิ๋นสี่รู้สึกอึดอัดเป็นที่สุด
แต่เล็กจนโต นางเห็นภาพที่ท่านพี่ถูกท่านแม่ติเตียนมามาก ท่านพี่ขวัญอ่อนขี้กลัว มิว่าท่านแม่จะให้ทำสิ่งใดท่านพี่ก็มิต่อต้าน
นางมิอยากต้องเป็นคนอย่างท่านพี่ ดังนั้นมิว่าท่านแม่จะพูดสิ่งใด นางก็จะทำสิ่งตรงข้ามเสมอ!
เรื่องของฉู่ลั่วครั้งนี้ นางมิจำเป็นต้องทำล้ำเส้นเช่นนี้ ที่หาคนไปก่อเรื่องทุกวัน
แต่ท่านแม่จะจัดหาคู่แต่งงานให้ท่านพี่ นางมองท่านพี่ที่น้ำตาอาบหน้าทุกวัน นางจึงตั้งใจไปก่อเรื่อง สร้างให้เรื่องมันใหญ่ เช่นนี้ท่านแม่จะได้มิไปจัดการเรื่องงานแต่งท่านพี่อีก
นางเพียงแค่อยากใช้วิธีของตนในการปกป้องพี่สาว!
แต่นางได้รับสิ่งใดกัน?
การถูกกดให้คุกเข่าขอโทษด้านนอก หลังกลับมา พี่สาวก็ติเตียนนางโดยมิถามสาเหตุอีก!
ลั่วหลางหลางได้ยินสิ่งนี้ ร่างของนางสั่นคลอน ดวงตาเบิกโพลงและมองไปทางลั่วอวิ๋นสี่อย่างมิอยากจะเชื่อ
เสียงของนางสั่นระรัว “อวิ๋นสี่...”
อวิ๋นสี่เช็ดน้ำตา หันร่างเดินจากไปอย่างดื้อรั้น
มองดูแผ่นหลังที่วิ่งหนีไปของอวิ๋นสี่ ในหัวของนางยังคงดังเป็นประโยคของอวิ๋นสี่เมื่อครู่ น้ำตาลั่วหลางหลางไหลนองเต็มหน้าทันที นางล้มทรุดบนพื้น
“ขอโทษ… ข้ามิรู้...” ลั่วหลางหลางกำแขนเสื้อไว้แน่น
นางมิเคยคิดมาก่อน อวิ๋นสี่จะทำเพื่อนางมากเช่นนี้
นางเหมือนท่านแม่ไม่ผิด ที่คิดว่าอวิ๋นสี่ดื้อรั้นสอนยาก แต่กลับมิเคยรู้ หลาย ๆ เรื่องอวิ๋นสี่เป็นคนเลือกที่จะตั้งใจทำ
แม้วิธีจะผิด แต่อย่างไรก็เพื่อนาง...
ลั่วหรงชะงักเล็กน้อย จากนั้นกล่าว “เจ้าถึงอายุที่ควรแต่งงานแล้ว มิต้องห่วง คนที่แม่เลือกให้ ต้องค้ำตระกูลลั่วได้แน่!”
“หลังเจ้าออกเรือน จวนมหาราชครูก็ยังคงเป็นบ้านของเจ้าอยู่ ทางที่ดีพวกเจ้ามาอยู่บ้านแม่เดือนหนึ่งอยู่บ้านสามีเดือนหนึ่ง มิต้องกลัวจะได้รับความอึดอัด!”
คิ้วของลั่วหลางหลางขมวดแน่น มองท่านแม่ที่เอ่ยพูดไม่หยุด นางรู้สึกอึดอัดจวนจะขาดใจ
“ท่านแม่ ข้าอยากอยู่ในจวน เคียงข้างท่านและท่านปู่ตลอดไป” ลั่วหลางหลางเอ่ยขึ้น
ลั่วหรงพูดปลอบ “หลังแต่งงานแล้วก็ยังกลับมาอยู่บ่อย ๆ ได้ อีกอย่างสตรีมิแต่งงานมันได้ที่ไหนกัน ตระกูลเรามิมีบุตรชาย ที่มีฐานะอย่างทุกวันนี้ก็เพราะปู่ของเจ้าทั้งนั้น”
“พูดให้ไม่น่าฟังก็คือ หางานแต่งให้เจ้ายามนี้ เจ้ายังเลือกคนดี ๆ ได้ หากวันไหนท่านปู่เสีย จวนมหาราชครูจะเหลือเพียงแค่เปลือกนอก ที่ไม่มีทั้งตำแหน่งราชการ และไร้ซึ่งรางวัลราชทาน ถึงยามนั้นจักมิเหลือสิ่งใดให้เลือกแล้ว”
ลั่วหลางหลางเกือบจะรับปากแล้ว แต่เมื่อคิดถึงคำพูดของอวิ๋นสี่ นางจึงกัดฟัน
“ท่านแม่ ข้าก็มิอยากแต่งงานอยู่ดี ข้ามิอยากแต่งกับคนแปลกหน้าที่มิเคยแม้แต่เจอหน้า!”
สิ้นประโยคนี้ ลั่วหรงตะลึง แววตาของนางยะเยือกลง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...