ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 356

"มันคืออันใดกันพ่ะย่ะค่ะ?"

ฟู่เฉินหวนกำหมัดแน่นบนโต๊ะอีกครั้ง "น่าจะเป็นถุงหอมนั้นแล"

"ทีแรกข้าก็คิดว่ามันเป็นแค่ถุงหอมธรรมดา ทว่ายามนี้ลองนึกดูแล้ว ลั่วเยวี่ยอิงกับลั่วชิงยวนกลับมีปากเสียงกันอยู่หลายครั้งหลายคราเพราะถุงหอมใบนี้"

"คราที่ลั่วชิงยวนเข้ามาในห้องตำราก็พยายามที่จะขโมยถุงหอม จนถึงขั้นคิดจักสังหารลั่วเยวี่ยอิงปิดปาก นี่แสดงให้เห็นว่าถุงหอมมีความสำคัญต่อนางมากเพียงใด!"

"ชะรอยจักมีผู้บงการให้นางเอาถุงหอมใบนั้นมาให้ได้ตั้งแต่แรกแล้ว!"

เมื่อซูโหยวได้ยินเช่นนี้ก็ให้รู้สึกตื่นตะลึง "ท่านอ๋องสงสัยว่า เป็นตระกูลเหยียนที่คอยยุยงปลุกปั่นกระนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ? ตระกูลเหยียนจับตามองพระชายาหลีมานานแล้ว!"

"เช่นนั้นท่านอ๋องก็มิควรคืนถุงหอมให้แก่ลั่วเยวี่ยอิง! หากตระกูลเหยียนลงมืออีกครั้งล่ะก็..."

ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว "ข้ามิอาจฝืนแย่งชิงเอาถุงหอมมาได้"

เมื่อซูโหยวได้ยินเช่นนี้เข้าก็รู้สึกตื่นตะลึง

"นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ท่านอ๋องยอมให้ท่านอัครเสนาบดีพาตัวพระชายาไปใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?"

หลังจากเข้าใจเรื่องนี้แล้ว สีหน้าของซูโหยวก็ออกจะขรึมเคร่งขึ้นมาบ้าง จากนั้นเขาก็อดมิได้ที่จะเอ่ยด้วยความเศร้าใจว่า "แต่กระหม่อมเกรงว่าคราวนี้พระชายาคงจักต้องสังเวยชีวิตแล้ว..."

สายตาของฟู่เฉินหวนพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชาแล้วมองมาที่ซูโหยว "นางก็แค่สายลับ สมควรถูกลงทัณฑ์แล้ว!"

ซูโหยวก้มหน้าลง ทว่าก็ยังอดมิได้ที่จะเอ่ยขึ้นมาว่า "แต่พระชายาอยู่ในเรือนแยกมาตั้งนาน หากนางคิดกลับมา นางก็คงลงมือไปตั้งนานแล้ว นางจักอดทนกลับตำหนักมาเพื่อกระไรกันหรือพ่ะย่ะค่ะ?"

"กระหม่อมคิดว่าพระชายาน่าจะถูกตระกูลเหยียนหลอกใช้เสียกระมัง?"

คำพูดประโยคนี้ทำเอาฟู่เฉินหวนไม่อาจสงบจิตใจลงได้

"ออกไป!" ฟู่เฉินหวนออกคำสั่งอย่างหมดความอดทน

ซูโหยวจึงก้มหน้าแล้วหันหลังออกไปจากห้องตำรา

……

รถม้าวิ่งไปตามถนนอันเงียบสงัด

พอตกดึกก็ยิ่งทวีความอ้างว้างและหนาวเหน็บให้แก่ถนนอันเงียบสงัด

เมื่ออยู่ภายในรถม้า ลั่วเยวี่ยอิงก็จ้องมองนางอยู่เกือบตลอดเวลา

ลั่วชิงยวนมองลั่วไห่ผิงด้วยสายตาเย็นชา "ท่านพ่อคิดจักทำกระไรข้า?"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย