ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 390

ลั่วชิงยวนฝืนยันร่างลุกขึ้นนั่ง “เกิดอะไรขึ้นหรือ?”

แม่นมเติ้งเห็นว่านางตื่นมาก็ชะงักเล็กน้อย และอึกอักที่จะเอ่ยปาก

“พูดสิ!” น้ำเสียงของลั่วชิงยวนไม่พอใจ

คิ้วของแม่นมเติ้งขมวดแน่น มีหน้าของนางโศกเศร้า “ท่านมหาราชครูลั่ว ปริดชีพตนเองเจ้าค่ะ!”

สีหน้าของลั่วชิงยวนเปลี่ยนไปฉับพลัน ราวกับถูกฟ้าผ่า “ว่ากระไรนะ?”

นางเปิดผ้าห่มออกลงจากเตียง สวมรองเท้าหยิบหน้ากากและวิ่งออกไปด้านนอกทันที จือเฉาถืออาภรณ์และผ้าคลุมวิ่งตามออกมา “พระชายาช้าหน่อยเจ้าค่ะ ด้านนอกหิมะตกอยู่!”

วินาทีที่พุ่งตัวออกจากในห้อง เกล็ดหิมะร่วงโรยบนหลังคอนางและละลายกลายเป็นน้ำ ลมเหมันต์หนาวเข้ากระดูกราวกับจะพัดนางให้สลาย หิมะทั่วฟ้าดินก็เทียบความเหน็บหนาวในใจนางมิติดแต่นิด

วิ่งออกจากประตูใหญ่ นางพบว่าด้านนอกมีรถม้าคันหนึ่งพอดี

นางจึงรีบขึ้นรถม้า และเอ่ยสั่งบ่าวควบม้า “ไปจวนมหาราชครู!”

เมื่อนั่งลง นางจึงเห็นฟู่เฉินหวนที่อยู่ด้านตรงข้าม

สีหน้าของเขาเองก็ค่อนข้างซีดเผือด บนใบหน้าเต็มไปด้วยแววหนักอึ้ง

ที่แท้เขามารออยู่ที่นี่ คิดว่าก็คงเพราะเพิ่งรู้เรื่องมหาราชครูเช่นกัน

รถม้าควบไปทางจวนมหาราชครูอย่างไว ใจของลั่วชิงยวนบีบรัด และเอ่ยถามอย่างอดมิได้

“แม่นมเติ้งกล่าวว่า มหาราชครูลั่วปลิดชีพตน นี่มันยังไงกันแน่เพคะ?”

คิ้วของฟู่เฉินหวนขมวดแน่น “ข้าเองก็เพิ่งรู้ น่าจะเพราะเรื่องฟ่านซานเหอเกี่ยวโยงกับการลักลูกแก้วหงส์เพลิง”

สิ้นประโยค ลั่วชิงยวนกำแขนเสื้อไว้แน่น “ฟ่านซานเหอไม่มีตำแหน่งขุนนาง บิดาของเขาก็กำลังนำทัพมิอยู่ในเมืองหลวง เขาจะลักลูกแก้วหงส์เพลิงได้อย่างไร เขาไปแถวหอบรรพบุรุษมิได้แม้แต่นิด!”

“เบื้องหลังของเรื่องนี้ ต้องมีผู้อื่นแน่! เหตุใดจึงเชื่อมโยงไปถึงจวนมหาราชครูกัน?”

วันนั้นที่นางเจอฟ่านซานเหอในจวน นางก็มีลางสังหรณ์ไม่ดี เพียงแต่ร่างกายนางค้ำไม่ไหว และสลบไป

หลายวันมานี้นางก็สลบพักฟื้นร่างตลอด นางคิดว่าเรื่องของฟ่านซานเหอต้องถูกตรวจสอบอย่างชัดเจนแน่

แต่ไฉนเรื่องราวจึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย