ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 401

จือเฉาพยักหน้าแล้วปฏิบัติตามคำสั่งของนาง

เมื่อประตูปิดลง

ลั่วชิงยวนก็หยิบยันต์ออกมาเผาจนกลายเป็นเถ้าธุลี จากนั้นก็ยกมือโปรยเถ้าธุลีให้เป็นวงลงบนโต๊ะ

นางกำลังจะแกะโซ่อักขระออก

ทันใดนั้นก็มีเงาดำกระโจนออกมา เล็บแหลมคมกับนิ้วมือซีดขาวปรากฏต่อหน้าต่อตาลั่วชิงยวนแล้วมุ่งเป้ามาที่นางทันที

แววตาของนางก็แปรเปลี่ยนเป็นเยียบเย็น และดึงโซ่อักขระกลับทันใด

เผยให้เห็นเฉพาะร่างท่อนบนของเงาดำ

ลั่วชิงยวนคว้าจับส่วนที่เหลืออยู่ของโซ่อักขระเอาไว้แน่น

เงาดำแยกเขี้ยวกางกรงเล็บพลางคำรามใส่นาง เสียงแหลมทะลุทะลวงราวกับจะแผ่ซ่านเข้าไปในเยื่อแก้วหู เผยให้เห็นความเศร้าโศกอย่างสุดซึ้ง

ลั่วชิงยวนรู้ว่าอีกฝ่ายไร้สติสัมปชัญญะโดยสิ้นเชิง เงาร่างดังกล่าวได้แต่ปลดปล่อยความแค้นอันแรงกล้าและต่อสู้อย่างไร้เหตุผล

หุ่นเชิดที่ถูกผู้ใดสักคนพรากเอาสติสัมปชัญญะไป

ย่อมขาดสติจนไม่สามารถสื่อสารได้ จนเหลือเพียงแค่ความสามารถในการสังหารคนเท่านั้น

ลั่วชิงยวนได้ตระเตรียมห้องเอาไว้โดยถี่ถ้วนแล้ว นางคว้าข้าวสารกำมือหนึ่งขึ้นมาวาดสัญลักษณ์แห่งการชำระล้างทั้งสามรูปแบบแล้วใส่ลงไปในถัง

จากนั้นนางก็ค่อยคว้าข้าวสารกำมือหนึ่งแล้วซัดใส่เงาดำ

ทันทีที่โดนข้าวสารปะทะใส่ หมอกดำนับไม่ถ้วนที่เผยออกมาก็ถูกแผดเผาจนกลายเป็นเปลวเพลิงกองย่อม ๆ

เงาดำกรัดร้องด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวมากขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับถูกแล่เนื้อเถือหนัง

ทั้ง ๆ ที่นางซัดข้าวสารหมดถังแล้ว แต่เงาดำก็ยังคงเต็มไปด้วยวิญญาณร้าย

ช่างเป็นความแค้นที่รุนแรงเสียจนไม่อาจจัดการได้ในชั่วเวลาอันสั้น!

เกรงว่ามีเพียงค้นหาสติสัมปชัญญะที่ถูกพรากเอาไป บางทีเงาร่างดังกล่าวอาจจะรู้สึกตัวขึ้นมาบ้างก็ได้

สิ่งที่ถูกกักขังอยู่ในหุ่นเชิดตัวนี้รุนแรงยิ่งกว่าพวกหุ่นเชิดเมื่อก่อนหน้านี้เสียอีก คงมิได้ปลุกกระตุ้นขึ้นมา

หากได้เงื่อนงำบางอย่างจากปากของอีกฝ่าย ก็น่าจะเป็นประโยชน์กับตัวนาง

ทว่ายามนี้เกรงว่าไม่น่าจะได้เงื่อนงำอะไรแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย