“ข้าก็อยู่ที่นี่มิใช่หรือ จะถือว่านางอยู่ลำพังตัวคนเดียวได้อย่างไรกัน?”
ฟู่เฉินหวนค่อย ๆ เดินเอามือไพล่หลังเข้ามา
สีหน้าท่าทางของเขาทำให้ทั้งลั่วชิงยวนกับลั่วหลางหลางตกตะลึงอยู่บ้าง
“ท่านอ๋อง!” ฟ่านซานเหอรีบแสดงคำนับ
ลั่วหลางหลางเองก็ผงกศีรษะเล็กน้อย
“บังเอิญว่าข้าเห็นรถม้าของตระกูลฟ่านอยู่ข้างนอก ฮูหยินใหญ่ฟ่านคงรออยู่นานแล้ว” ฟู่เฉินหวนเอ่ยเตือน
ลั่วหลางหลางกุมมือของลั่วชิงยวนอย่างยากจะตัดใจ “เช่นนั้นข้าไปก่อนนะ”
ลั่วชิงยวนพยักหน้า
ฟู่เฉินหวนค่อย ๆ เอ่ยขึ้นมาว่า "วันนี้ข้าว่างพอดี เช่นนั้นข้ากับพระชายาจะไปส่งพวกเจ้าก็แล้วกัน"
เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกประหลาดใจอย่างถึงที่สุด
นี่เป็นครั้งแรกเลยใช่หรือไม่ที่ฟู่เฉินหวนยอมรับว่านางเป็นพระชายาต่อหน้าผู้อื่น?
จู่ ๆ ท่าทีก็เปลี่ยนไปกระนั้นหรือ?
ไฉนนางจึงรู้สึกไม่คุ้นเคยเอาเสียเลยเล่า?
ลั่วชิงยวนขี่ม้าตามฟู่เฉินหวนไปส่งรถม้าตระกูลฟ่านออกนอกเมือง
เมื่อเห็นรถม้าจากไปไกลแล้ว ลั่วชิงยวนก็รู้สึกหนักอึ้งและไม่ยินยอมอยู่บ้าง
การจากลาครั้งนี้ มิทราบจริง ๆ ว่าจะได้พบกันอีกเมื่อใด
ทันใดนั้นเสียงของฟู่เฉินหวนก็พลันดังขึ้น "ฮูหยินใหญ่ฟ่านมีกิจการใหญ่โตในซีหยาง ถึงแม้ว่าจะมีญาติมากมาย แต่มีฮูหยินใหญ่ฟ่านกับฟ่านซานเหอคอยปกป้องลั่วหลางหลางอยู่ ลั่วหลางหลางก็มิน่าจะโดนรังแกหรอก"
ลั่วชิงยวนรู้สึกตกใจอยู่บ้าง จากนั้นกระตุ้นม้าเลี้ยวกลับเข้าเมือง
หลังจากนั้นสักพัก ในที่สุดนางก็เอ่ยขึ้นมาว่า “ขอบคุณ”
เมื่อฟู่เฉินหวนได้ยินเข้าก็หรี่ตาเล็กน้อย
ถึงแม้ว่าเขาจะมิได้ตอบคำ ทว่ากลับอดมิได้ที่จะยกยิ้มขึ้นมา
ลั่วชิงยวนเหลือบมองข้างทางแล้วขมวดคิ้วไปชั่วขณะ ไฉนเขาจึงยิ้มขึ้นมาเล่า? ประสาทกลับเสียแล้วหรือ?
พวกเขาสองคนค่อย ๆ ขี่ม้ากลับตำหนักอ๋อง
ผู้สัญจรไปมาตามท้องถนนต่างเห็นกันทั่ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
กำลังสนุกเลยค่ะต่อๆค่ะ...
เนื้อเรื่องไม่มีความฉลาดเลย แต่ละคน บ้าบอมาก...
ตายๆ ไปซะ นางเอกไร้น้ำยา ทำอะไรก้ไม่ได้ดีซักอย่าง...
พระชายยา เหี้ยไร ไร้น้ำยาสิ้นดี เหมือนนางทาส...
นางเอกก็หน้าด้านชิบหาย ผัวเกลี่ยดขนาดนี้ ก็ยังหน้าด้านทน...
🫠...
อ๋องคือโง่มากอะ เหมือนจะฉลาดแต่ก็ไม่พกสติเลย นางเอกก็โดนทรมานเกิน...
กลับมาแล้ว ว้าวววววววววววว...
หายยาววววววววววววว😒😒😒...
อัพต่อหน่อยค่ะแอด พลีสสสสสสสสสสสส...