เมื่อคนที่อยู่บนเวทีโดนบังคับให้หยุดร่ายระบำ ใบหน้ายิ้มแย้มของพวกเขากลับเย็นชาขึ้นทีละนิด ๆ สายตาไม่เป็นมิตรเผยให้เห็นแววขุ่นเคืองอยู่บ้าง เมื่อลั่วชิงยวนวิ่งมาถึง นางก็อดมิได้ที่จะเหลียวกลับไปมอง แต่บนเวทีกลับว่างเปล่า!
ทันใดนั้นนางก็รู้สึกว่ามือที่กอดแขนนางไว้กลับเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็ง ชวนให้หนาวเหน็บจนรู้สึกเจ็บปวด นางจึงหันกลับไปทันที ในสายตาของนาง มือที่กอดแขนของนางเอาไว้ช่างซีดขาวไร้สีเลือด อาภรณ์ขาวผืนหนึ่งปลิวสะบัดท่ามกลางสายลมแล้วล่องลอยอยู่ตรงหน้านาง
“คุณชาย ท่านจะไปที่ใดหรือเจ้าคะ? ไยจึงไม่ฟังข้าร้องเพลงให้จบเสียก่อนเล่า?” น้ำเสียงอ่อนโยนค่อย ๆ ดังขึ้น ลมหายใจที่พ่นออกมากลับเต็มไปด้วยไอเยียบเย็น เมื่อลั่วชิงยวนเงยหน้าขึ้นก็เห็นสตรีใบหน้าซีดขาวค่อย ๆ คลี่ยิ้มออกมาทีละนิด ๆ ริมฝีปากของนางแดงฉานมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ทั้ง ๆ ที่นางกำลังแย้มยิ้ม กลับมีโลหิตไหลทะลักออกมาจากมุมปากอย่างน่าประหลาด ผิวซีดขาวที่ปะปนไปด้วยโลหิตข้นเหนียวหย่อมหนึ่งก็ร่วงหล่นลงมาด้วย
ดวงตาของนางหดเหลือเพียงตาขาวเท่านั้น เมื่อมีลมกระโชกแรงหอบหนึ่ง ก็ราวกับจะแหลกสลายลงได้ทุกเมื่อ ลั่วชิงยวนสีหน้าสงบนิ่งพลางยกยิ้มมุมปากแล้วค่อย ๆ เอ่ยขึ้นมาว่า “แม่นาง เจ้าหนาวหรือไม่?”
อีกฝ่ายตะลึงงันอย่างเห็นได้ชัด นางรู้สึกประหลาดใจที่ลั่วชิงยวนไม่รู้สึกหวาดกลัวสักนิด “ให้ข้าช่วยเจ้าอบอุ่นร่างกายเถอะ” ชั่วครู่ต่อมาลั่วชิงยวนก็หยิบเข็มทิศชะตาออกมา ทันทีที่เข็มทิศหมุน เสียงแหลมชัดก็ราวกับจะทะลุแก้วหูของลิ่นฝูเสวี่ย ชวนให้นางเจ็บปวดเจียนหูแทบแตก
ทันใดนั้นอาคมประกายชาดก็จู่โจมใส่ลิ่นฝูเสวี่ย นางโดนเหวี่ยงกลับไปอย่างแรง ร่างของลิ่นฝูเสวี่ยเต็มไปด้วยเปลวเพลิงที่กระจายเป็นหย่อม ๆ แผดเผาเสื้อผ้าอาภรณ์และผิวของนาง
ความเจ็บปวดเนื่องจากโดนเผาทำให้นางกรีดร้องด้วยน้ำเสียงน่าสังเวช แต่หลังจากนั้นไม่นาน ลิ่นฝูเสวี่ยก็เริ่มคลุ้มคลั่งขึ้นมาแล้วเรียกวายุคลั่งมาดับเพลิงบนร่างของตน
แต่นางไม่กล้าเข้าใกล้ลั่วชิงยวนมากไปกว่านี้ ลั่วชิงยวนหาได้ทราบถึงสถานการณ์ของซ่งเชียนฉู่ ดังนั้นนางจึงเลิกเข้าไปยุ่งแล้วรับวิ่งหนีไป
เมื่อลั่วชิงยวนหันกลับมา เงาร่างสีขาวอันแสนไร้อารมณ์ก็ยืนอยู่ห่างออกไปไม่ไกล ดวงตาซีดขาวคู่นั้นใช้แววตามรณะจับจ้องมาที่นาง จากนั้นนางก็วิ่งออกมาจากเรือนชั้นใน
เมื่อมาถึงหน้าลานเรือน นางก็เห็นท่านลุงโผล่ออกมาพร้อมกับซ่งเชียนฉู่ที่ยังไม่รู้สึกตัว ท่านลุงมองมาที่เรือนชั้นในด้วยท่าทีเป็นกังวล เมื่อเขาเห็นนางออกมาก็รู้สึกลิงโลดขึ้นมา “คุณชาย ท่านออกมาสักที!”
“เร็วเข้า เร็วเข้า รีบไปกันเถอะขอรับ!” ท่านลุงคว้ามือของนางแล้วรีบวิ่งออกไปทันที เมื่อวิ่งออกมานอกประตูแล้วก็วิ่งไปหน้าถนน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
กำลังสนุกเลยค่ะต่อๆค่ะ...
เนื้อเรื่องไม่มีความฉลาดเลย แต่ละคน บ้าบอมาก...
ตายๆ ไปซะ นางเอกไร้น้ำยา ทำอะไรก้ไม่ได้ดีซักอย่าง...
พระชายยา เหี้ยไร ไร้น้ำยาสิ้นดี เหมือนนางทาส...
นางเอกก็หน้าด้านชิบหาย ผัวเกลี่ยดขนาดนี้ ก็ยังหน้าด้านทน...
🫠...
อ๋องคือโง่มากอะ เหมือนจะฉลาดแต่ก็ไม่พกสติเลย นางเอกก็โดนทรมานเกิน...
กลับมาแล้ว ว้าวววววววววววว...
หายยาววววววววววววว😒😒😒...
อัพต่อหน่อยค่ะแอด พลีสสสสสสสสสสสส...