ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 429

“เซียนฉู่ว่างเมื่อไหร่ ข้าค่อยมาดื่มกับเจ้าอีกก็แล้วกัน”

หลังจากฟู่เฉินหวนพูดจบก็หันหลังเดินจากไป

ทั้งสองคนยืนอยู่ใต้ชายคาแล้วมองดูเงาร่างของฟู่เฉินหวนเดินจากไป

จากนั้นซ่งเชียนฉู่ก็เอ่ยขึ้นมาว่า “เขาคิดจะซื้อโอสถให้ท่านใช่หรือไม่? ที่บอกว่าใบหน้าของท่านโดนงูกัดก็เป็นเพียงข้ออ้างมิใช่หรอกหรือ?”

ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วพลางกล่าวว่า “โสมร้อยปีย่อมมิได้ให้ข้าอยู่แล้ว คงเอาไปช่วยชีวิตลั่วไห่ผิงมากกว่า”

“พวกเรามอบให้เขามิได้เป็นอันขาด!”

ซ่งเชียนฉู่เลิกคิ้ว “ข้ามิยอมมอบให้เขาแน่! ท่านอุตส่าห์ทุ่มเงินตั้งมากมายเพื่อจัดการกับลั่วไห่ผิง! ขืนรักษาลั่วไห่ผิงอีก คงได้ขาดทุนป่นปี้กันพอดี”

จากนั้นลั่วชิงยวนก็ผลัดเปลี่ยนเป็นอาภรณ์บุรุษและผ้าคลุมหน้าที่มิเคยสวมใส่มาก่อนแล้วค่อยเดินออกไป

นางไปหาลิ่นฝูเสวี่ยที่คฤหาสน์หลังนั้นก่อน

นางหยิบตุ๊กตาผ้าตัวเล็กใส่ลงไปในถุงหอม จากนั้นก็ชักนำลิ่นฝูเสวี่ยเอาไว้ข้างใน

“ไม่รู้ว่าท่านแค้นใจข้ามากเสียจนต้องแก้เผ็ดใช่หรือไม่? พื้นที่เล็กจ้อยเช่นนั้น ท่านจักบีบคั้นให้ข้าตายหรืออย่างไรกัน?”

เสียงบริภาษของลิ่นฝูเสวี่ยดังออกมาจากถุงหอม

ลั่วชิงยวนค่อย ๆ เดินเข้ามา “นั่นคือวิชาของข้า เจ้าใช้แก้ขัดไปก่อน”

จากนั้นลิ่นฝูเสวี่ยก็ถอนหายใจออกมา “หากมารดาของท่านรู้ว่าท่านกระทำกับข้าเช่นนี้ นางต้องเสียใจเป็นแน่”

“เจ้ายังกล้าเอ่ยถึงมารดาของข้าอีก หากเจ้ากับนางเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันจริง ๆ ล่ะก็ เช่นนั้นเจ้าก็ควรดูแลบุตรีของพี่น้องที่ดีของตัวเองมิใช่หรือ? แต่เจ้ากลับคิดใช้เรือนร่างบุตรีของพี่น้องที่ดีของตัวเองเพื่อมาร่ายรำอวดรูปโฉม"

ลิ่นฝูเสวี่ยแค่นเสียงเย็นชา “ก็ไม่เห็นจะขัดกันตรงไหนเลย ต่อให้มารดาของท่านอยู่ที่นี่ ข้าก็ยังมีเงื่อนไขแบบเดียวกัน!”

“ใต้หล้านี้มิว่าสนิทสนมกันสักเพียงใด ก็มิอาจได้รับอยู่ฝ่ายเดียวหรอก รับมาแล้วให้ไปต่างหากจึงเป็นความสัมพันธ์อันยั่งยืน!”

“พวกเราต่างมีความสัมพันธ์แบบอิงผลประโยชน์ หากพวกเราแต่ละฝ่ายต่างได้ในสิ่งที่ต้องการ ความสัมพันธ์ก็ยิ่งแน่นแฟ้น! ข้าทำเช่นนี้ก็เพื่อตัวท่านเองนะ”

“ท่านเซียนน้อย ข้าพูดมีเหตุผลหรือไม่เล่า?”

ลั่วชิงยวนเงียบไปสักพัก นางโดนลิ่นฝูเสวี่ยกล่อมเข้าแล้วจริง ๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย