ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 454

สตรีนางนั้นชี้นิ้วใส่ลั่วชิงยวนด้วยท่าทีเปี่ยมโทสะ จากนั้นก็รีบเดินเข้ามาผลักเข้าที่ไหล่ของนาง “มิน่า คนข้างนอกจึงเรียกเจ้าว่าโสเภณีชาย เจ้าชอบทำลายงานวิวาห์ของผู้อื่นและเกี้ยวพาสตรีก็แล้วไปเถิด แต่ข้าไม่นึกเลยว่าเจ้าจะถึงขั้นไล่ตามบุรุษด้วย ปล่อยเอาไว้มิได้แล้ว!”

ลั่วชิงยวนสับสนไปชั่วขณะ คนผู้นี้เอ่ยถึงนางกระนั้นหรือ?

ดูเหมือนว่านางจะเคยพบอีกฝ่ายที่ไหนสักแห่ง

“แม่นาง โปรดพูดจาให้เกียรติกันด้วย!” ลั่วชิงยวนปัดมือของอีกฝ่ายออกด้วยท่าทีไม่พอใจ

สตรีร่างท้วมโมโหจัด “ให้เกียรติงั้นรึ? ข้าจะสั่งสอนเจ้าเอง!”

หลังจากนางพูดจบก็ยกมือขึ้น

ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วพลางหลบไปด้านข้างแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า “แม่นาง ข้ามิลงไม้ลงมือกับสตรี ได้โปรดสำรวมด้วย”

“เจ้า!” สตรีร่างท้วมโกรธเสียจนร้องตะโกนออกมาว่า “จับมันไว้!”

จากนั้นผู้คุ้มกันหลายสิบคนก็พุ่งเข้ามาเตรียมพร้อมที่จะลงมือ

ในยามนี้เอง ก็มีเสียงตะคอกดังลั่นขึ้นมา “หยุดนะ!”

ทันใดนั้นเงาร่างอันแสนคุ้นตาก็ปรากฏขึ้นตรงหน้านาง

ฟู่จิ่งหลี

ฟู่จิ่งหลีโบกพัดจีบพลางเหลือบมองสตรีร่างท้วมด้วยสีหน้าไม่พอใจ “เจ้าจักทำกระไร?”

ยามที่โม่เซียนอวี้เห็นฟู่จิ่งหลีเดินเข้ามา ท่าทางเจ้าอารมณ์เมื่อก่อนหน้านี้พลันเปลี่ยนไปทันที จากนั้นนางก็ทำปากยื่นเพื่อเสริมจริตลงไปบ้าง

นางเอ่ยด้วยโทสะปนกับจริตมารยาเล็ก ๆ น้อย ๆ ว่า “พระสวามี เป็นนักทำนายลวงโลกผู้นี้แล ที่คราวก่อนบอกว่าท่านจักต้องเสียใจกับการแต่งงานของตัวเอง!"

"มันก็เป็นแค่มนุษย์คนหนึ่ง ไฉนท่านต้องไปฟังมันด้วยเล่า? หม่อมฉันเป็นภรรยาของท่านนะเจ้าคะ!"

เมื่อลั่วชิงยวนเห็นหญิงสาวจู่ ๆ ก็เปลี่ยนสีหน้า นางก็สัมผัสได้ถึงอารมณ์ความรู้สึกอันยากจะอธิบายที่ผุดขึ้นในใจ

จากนั้นนางก็เบือนหน้าหนี

นางจำได้ว่าตนเคยเห็นสตรีผู้นี้มาก่อน

ครั้งแรกที่นางพบฟู่จิ่งหลี เขาถูกสตรีผู้นี้ไล่ตามมาตลอดทาง ฟู่จิ่งหลีจึงหนีเข้ามาหลบในร้านของนาง

โม่เซียนอวี้โกรธเสียจนปรี่เข้ามาหมายจะสั่งสอนลั่วชิงยวนสักยก

ฟู่จิ่งหลีคว้าแขนของโม่เซียนอวี้เอาไว้แล้วผลักอีกฝ่ายออกไป “ข้าไม่มีทางแต่งงานกับเจ้า! มิเกี่ยวอันใดกับเซียนฉู่สักนิด!”

“ข้าขอพูดเป็นครั้งสุดท้าย จงไสหัวไปให้พ้นสายตาข้าซะ!”

ดวงตาของฟู่จิ่งหลีฉายแววโหดเหี้ยม สร้างความหวาดกลัวให้แก่โม่เซียนอวี้

ทว่าโม่เซียนอวี้กลับรู้สึกคับข้องใจเสียจนดวงตาแดงก่ำ “จิ่งหลี…”

แววตาของฟู่จิ่งหลีพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชาและไม่คิดจะเอ่ยวาจาอื่นใดอีก ทันใดนั้นเขาก็ชักดาบตรงเอวขององครักษ์นายหนึ่งมาชี้ใส่โม่เซียนอวี้

ประกายคุกคามที่แฝงไปด้วยแววเย็นชาทำให้ท่าทีของเขาชัดเจนยิ่งขึ้น

โม่เซียนอวี้ขยี้เท้าด้วยท่าทีเกรี้ยวกราด จากนั้นก็จ้องมองลั่วชิงยวนอย่างเป็นเดือดเป็นแค้นแล้วนำคนจากไป

หลังจากพวกเขาจากไปแล้ว ฟู่จิ่งหลีก็ทิ้งดาบลงด้วยท่าทีโกรธเกรี้ยว

เมื่อเขาเห็นลั่วชิงยวนก็มีรอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าอีกครั้ง “ข้าทำให้คุณชายฉู่ต้องมาเห็นเรื่องน่าอับอายเสียแล้ว ในเมื่อท่านก็มาแล้ว ข้าจักเลี้ยงสุราเป็นการขอขมาท่านก็แล้วกัน!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย