ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 457

จี้หยกชิ้นนี้เป็นสิ่งตกทอดจากจักรพรรดิพระองค์ก่อน ฉะนั้นย่อมล้ำค่ายิ่งนัก แต่องค์ชายห้าของสำคัญเช่นนั้นเพื่อภาพเขียนแผ่นนี้จริง ๆ หรือ?

ฟู่จิ่งหลีเองก็รู้สึกสับสนเช่นกัน เขาหันไปมองภาพเขียนด้วยท่าทีลังเลใจ “แต่ภาพเขียนแผ่นนี้…”

ดูอย่างไรก็ไม่เหมือนวัตถุสิ่งของจากคลังสมบัติของเขาเลย ม้วนภาพใหม่เกินไป

องค์ชายห้าถึงขนาดยอมเอาของสำคัญไปแลกเปลี่ยนกับภาพเขียนไร้ค่าม้วนหนึ่ง

เพราะเขาไม่อยากเอาเปรียบผู้อื่น

เส้นประสาทของลั่วชิงยวนเขม็งตึง จากนั้นนางก็ลุกขึ้นทันที “กระหม่อมก็ต้องการภาพเขียนม้วนนี้เช่นกัน!”

“วันนี้กระหม่อมมิได้นำของล้ำค่าอันใดมา แต่กระหม่อมขอเสนอเงื่อนไขข้อหนึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนกับองค์ชายเจ็ดพ่ะย่ะค่ะ!”

ภาพเขียนม้วนนี้จะให้ฟู่อวิ๋นโจวเอาไปมิได้เป็นอันขาด

เนื่องจากมีผู้คนมากมายมองอยู่ พวกเขาต่างทราบดีว่าคนที่อยู่ในภาพเขียนเป็นผู้ใดกัน

ฟู่อวิ๋นโจวกับนางจะต้องโดนจัดการ!

ผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้คิดจะใส่ความว่านางกับองค์ชายห้าคบชู้กัน!

ทุกคนต่างรู้สึกประหลาดใจแล้วหันไปมองเทพพยากรณ์ที่จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นมา

ฟู่จิ่งหลีเองก็รู้สึกตกตะลึงเช่นกัน “ท่านก็ต้องการมันเช่นกันหรือ?”

ฟู่อวิ๋นโจวรีบเอ่ยขึ้นมาว่า “น้องเจ็ด ข้าหวังว่าเจ้าจักคิดให้ดี ๆ!”

ฟู่อวิ๋นโจวยังคงพยายามเกลี้ยกล่อมสุดความสามารถ

ในยามนี้เอง

น้ำเสียงอันแสนคุ้นเคยก็ดังขึ้นจากด้านนอก “หม่อมฉันได้ยินว่าวันนี้พระสวามีของหม่อมฉันกำลังประมูลสิ่งของอยู่ที่นี่ ดังนั้นหม่อมฉันจึงนำข้าวของบางอย่างมาด้วย ไฉนท่านต้องมอบโอกาสให้ผู้อื่น แต่ไม่ยอมแลกเปลี่ยนกับหม่อมฉันเล่าเพคะ?”

ทันทีที่เสียงของโม่เซียนอวี้ดังขึ้น ฟู่จิ่งหลีก็หน้าเปลี่ยนสีทันที

สีหน้าเขียวคล้ำเต็มเปี่ยมไปด้วยความรังเกียจและเหยียดหยาม เห็นได้ชัดว่าฟู่จิ่งหลีรู้สึกเกลียดชังนางมากจริง ๆ

ส่วนข้อพิพาทเรื่องภาพเขียนม้วนนี้ ฟู่จิ่งหลีพลันเอ่ยขึ้นมาว่า “ขอมอบภาพเขียนม้วนนี้ให้แก่องค์ชายห้า หาได้ยากนักที่ท่านจักร้องขออะไรสักอย่างจากข้า จี้หยกชิ้นนี้เสด็จพ่อของท่านมอบให้ท่านแล้ว ท่านก็ควรจะเก็บเอาไว้กับตัวเอง”

“ทุกท่าน การประมูลยังคงดำเนินต่อไป ข้าขอตัวสักครู่”

หลังจากฟู่จิ่งหลีกล่าวจบ เขาก็รีบออกมาแล้วผลักโม่เซียนอวี้ที่เพิ่งจะเดินเข้าโรงเตี๊ยมออกไป

“ไสหัวไปซะ! เจ้ามาทำกระไรที่นี่! ข้ามิได้เชิญเจ้า!”

คืนนี้หากเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น เกรงว่าข่าวลือที่พวกเขาลอบพบกันที่นี่คงได้แพร่สะพัดออกไปทันทีที่ฟ้าสาง

ทว่าต่อให้นางเตรียมการเอาไว้แล้วสวมชุดบุรุษเข้ามา นางก็คาดไม่ถึงเลยว่าสมบัติที่ฟู่จิ่งหลีเอามาจะมีภาพเขียนเช่นนั้นด้วย!

ตอนนี้นางคิดจะเอามาจากฟู่อวิ๋นโจว แต่ฟู่อวิ๋นโจวไม่รู้จักฉู่ลั่วจึงมิได้ไว้หน้าของนางเลยสักนิด

ฟู่อวิ๋นโจวหน้าเปลี่ยนสีอยู่บ้าง ทว่าหลังจากนั้นเขาก็ขมวดคิ้วพลางกล่าวว่า “นี่เป็นเรื่องของข้า หาได้เกี่ยวข้องอันใดกับเจ้าไม่”

“หากคุณชายต้องการภาพเขียนม้วนนี้ด้วยเหตุผลนี้ เช่นนั้นข้าคงมอบให้คุณชายมิได้!”

หลังจากฟู่อวิ๋นโจวพูดตบ เขาก็รีบปิดประตูทันที

ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว เมื่อเห็นท่าทีตอบสนองของฟู่อวิ๋นโจว ดูเหมือนว่าเขาจะล่วงรู้ความหมายของภาพเขียนม้วนนี้ และเกรงว่ามันจะตกอยู่ในมือของผู้อื่นจนก่อให้เกิดคำครหา ดังนั้นนางจึงเดินจากไปตามทางของตนเอง

นางหวังว่าเขาจะทำลายภาพเขียนไปเสีย

ลั่วชิงยวนครุ่นคิดแล้วหันหลังเดินจากไป

ทว่าฟู่อวิ๋นโจวที่อยู่ในห้องกลับกางภาพเขียนแล้วมองดูเงียบ ๆ ด้วยสายตาลึกซึ้ง

เขาเอ่ยพึมพำว่า “ดึกป่านนี้แล้ว ไยเจ้ายังไม่มาอีก?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย