ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 462

ฟู่เฉินหวนชะงักฝีเท้า

“หม่อมฉันตกลงช่วยชีวิตเขาก็ได้”

“แต่ท่านต้องให้หม่อมฉันรักษาเขาเอง!”

นี่คือเงื่อนไขของนาง

ยามนี้ทั่วทั้งเมืองหลวงต่างล่วงรู้ว่าอัครเสนาบดีป่วยหนัก แม้แต่หมอหลวงก็อับจนหนทาง ทว่านางสามารถรักษาลั่วไห่ผิงได้ อย่างไรเสีย ลั่วไห่ผิงก็ยังดวงมิถึงฆาต คราวนี้ก็น่าจะยังมิตายหรอก

แต่นางคงมิยอมให้ลั่วไห่ผิงหายเป็นปกติง่าย ๆ ขนาดนั้นหรอก นางจะทำให้เขาต้องทรมานด้วยความเจ็บปวดไปชั่วชีวิต!

อีกอย่างนางก็ไม่ยอมยกผลงานของตนให้ผู้ใดแน่

เมื่อฟู่เฉินหวนได้ยิน เขาก็กำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว

เพื่อฟู่อวิ๋นโจวแล้ว นางถึงกับตอบรับเงื่อนไขที่จะช่วยชีวิตลั่วไห่ผิง หากนางบอกว่ามิได้รักใคร่ไยดีในตัวฟู่อวิ๋นโจว ผู้ใดจะเชื่อกันเล่า?

รอยยิ้มเยียบเย็นผุดขึ้นบนเครื่องหน้าอันเด่นชัดของฟู่เฉินหวน จากนั้นน้ำเสียงเย็นชาก็ค่อย ๆ ดังขึ้นว่า “หากเจ้ายอมตอบตกลงช่วยชีวิตลั่วไห่ผิงเพื่อช่วยชีวิตฟู่อวิ๋นโจว ดูเหมือนว่าท่านมหาราชครูก็หาได้สลักสำคัญกับเจ้าเท่ากับฟู่อวิ๋นโจวนักหรอก”

“ข้าคิดว่าหามีสิ่งใดสั่นคลอนจิตใจที่จะสังหารลั่วไห่ผิงของเจ้าได้ไม่เสียอีก ดังนั้นข้าจึงรู้สึกชื่นชมว่ามิเสียแรงที่ท่านมหาราชครูรักใคร่เอ็นดูเจ้ามากและปฏิบัติกับเจ้าราวกับเป็นหลานสาวแท้ ๆ ของตน”

“ทว่ายามนี้กลับหาได้เป็นเช่นนั้นไม่”

น้ำเสียงเหยียดหยันของเขาราวกับมีดที่แทงทะลุหัวใจของลั่วชิงยวน

เจ็บปวดมากเสียจนแต่ละครั้งที่นางหายใจ ก็รู้สึกว่าหน้าอกปวดแปลบขึ้นมา

โทสะพลุ่งขึ้นบนศีรษะ หน้าอกสะท้อนขึ้นลงอย่างแรง จากนั้นนางก็ข่มกลั้นโทสะ “ฟู่เฉินหวน ผู้อื่นต่างหากที่ควรจะเอ่ยเรื่องเช่นนั้น แต่หาใช่ท่านไม่!”

เพลิงโทสะพลันแผดเผาอยู่ในแววตาของฟู่เฉินหวน ทว่าเขาเพียงเหลือบมองลั่วชิงยวนด้วยสายตาโกรธขึ้ง พลางกำหมัดแน่นแล้วโกรธจนหันหลังไป

“ไปที่จวนอัครเสนาบดีเดี๋ยวนี้! เอาไว้ลั่วไห่ผิงหายดีเมื่อใดแล้วข้าจักปล่อยเขาไป!”

ลั่วชิงยวนมองเงาร่างที่กำลังจากไปของเขาแล้วกำหมัดแน่น

โทสะในใจของนางผสมกับความขมขื่นอันน้อยนิด ทำให้นางรู้สึกเจ็บปวดยิ่งนัก

หลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว นางก็เดินออกไปจากลานเรือน

นางไปเตรียมข้าวของที่ห้อง เมื่อนางออกมาอีกครั้ง รถม้าก็พร้อมสรรพและฟู่เฉินหวนก็รอนางอยู่บนรถม้าแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย