ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 463

“ใช่” ฟู่เฉินหวนมิได้ปิดบังสิ่งใด

ทว่าเมื่อลั่วเยวี่ยอิงได้ยินเช่นนี้เข้า นางกลับร้อนใจมากเสียจนคว้าแขนเสื้อของฟู่เฉินหวนเอาไว้ “ท่านอ๋อง จักทำเช่นนี้ได้อย่างไรเพคะ!”

“ท่านกับหม่อมฉันต่างรู้ดีว่าท่านพี่เกลียดชังท่านพ่อของหม่อมฉัน หากนางทำร้ายท่านพ่อขึ้นมาจักทำเช่นไรเพคะ?"

“ท่านอ๋อง ท่านทำเช่นนั้นมิได้นะเพคะ!”

ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วพลางมองดวงตาแดงก่ำของลั่วเยวี่ยอิงที่ราวกับจวนจะร้องไห้อยู่รอมร่อ จนเขาเกือบจะตกปากรับคำนางไปแล้ว

ทว่าเหตุผลทำให้เขาต้องระงับตนเองพลางตอบว่า “ข้าจักคอยดูมิให้นางทำร้ายท่านอัครเสนาบดี ยิ่งมิต้องเอ่ยถึงเรื่องที่นางเองก็เป็นบุตรีคนหนึ่งของท่านอัครเสนาบดีเช่นกัน”

“ท่านอ๋อง!” ลั่วเยวี่ยอิงขวางลั่วชิงยวนเอาไว้ด้วยท่าทีร้อนรนกังวลใจ

ลั่วชิงยวนเลิกคิ้วแล้วมองฟู่เฉินหวน “หากมิต้องการให้ข้าตรวจดูก็ช่างเถอะ เช่นนั้นข้าก็จักกลับแล้ว”

หลังจากนางพูดจบก็หันหลังเดินจากไป

ไหน ๆ นางก็ไม่เต็มใจที่จะรักษาลั่วไห่ผิงมาตั้งแต่แรกแล้ว

ฟู่เฉินหวนคว้ามือนางเอาไว้ ทว่ายามนี้หมอหลวงทั้งหลายต่างกำลังเฝ้ามองดูอยู่ ฟู่เฉินหวนไม่อาจพูดจารุนแรงจึงได้แต่เอ่ยกระซิบว่า “เจ้าตกลงกับตัวข้าแล้ว”

เสียงทุ้มดังเข้าสู่โสตของลั่วเยวี่ยอิง ทว่ากลับเต็มไปด้วยท่าทีคลุมเครือ ชวนให้นางรู้สึกชิงชังจนเข็ดฟันขึ้นมาทันที

ลั่วชิงยวน เกิดอันใดขึ้นกับนางกันแน่?

เมื่อรู้สึกตัวอีกที นางก็ได้ยินฟู่เฉินหวนบอกตนว่า “เรื่องจบไปแล้ว ให้ลั่วชิงยวนลองตรวจดูเถอะ”

หลังจากเขาพูดจบก็เดินผ่านหน้าลั่วเยวี่ยอิงไป แล้วจูงมือลั่วชิงยวนเข้าไปในเรือนชั้นใน

ลั่วเยวี่ยอิงนิ่งงัน พลางมองฟู่เฉินหวนกุมมือของลั่วชิงยวนด้วยความรู้สึกตกตะลึงสุดขีด

เพราะเหตุใดกัน? แทนที่จะลงโทษนาง ท่านอ๋องกลับ...

หลังจากโดนจูงมือเข้ามาที่เรือนชั้นใน ลั่วชิงยวนก็พยายามชักมือออก ทว่ากลับถูกมือของฟู่เฉินหวนกุมเอาไว้แน่น

“ปล่อมหม่อมฉันเพคะ! ในเมื่อหม่อมฉันตกลงกับท่านแล้ว หม่อมฉันย่อมมิกลับคำ!” น้ำเสียงของลั่วชิงยวนฉายแววมิพอใจ

ฟู่เฉินหวนเหลือบมองรอบข้าง จากนั้นก็ลดเสียงพลางข่มขู่ด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “หากเจ้าอยากจะสยบข่าวลือ แม้เจ้ามิเต็มใจ เจ้าก็ต้องทำสิ่งที่พระชายาสมควรกระทำ!”

ลั่วไห่ผิงกำลังนอนหมดสติจวนสิ้นลมหายใจอยู่บนเตียง สีหน้าซูบซีดอิดโรยยิ่งนัก

ลั่วชิงยวนก้าวเข้ามาจับชีพจรและพบว่า ถึงแม้ลั่วไห่ผิงจะชีพจรเต้นอ่อน ทว่ากลับไร้วี่แววจวนจะสิ้นชีพและสีหน้าก็หาได้มืดมนไม่

แน่นอนว่าของพวกนี้ย่อมมิเพียงพอที่จะทำให้ลั่วไห่ผิงสิ้นชีวิตได้หรอก

ก็แค่ทำให้พลังชีวิตของเขาพร่องมากเกินไปสักหน่อยเท่านั้นเอง

แต่ในสายตาของหมอ นี่เป็นสัญญาณของอาการป่วยระยะสุดท้ายแล้ว เพียงได้กลิ่นโอสถในห้อง นางก็รู้ว่าพวกเขาใช้สมุนไพรล้ำค่ากับลั่วไห่ผิงไปมากมาย

นางหยิบเข็มเงินออกมาแล้วเริ่มฝังเข็มให้แก่ลั่วไห่ผิง

ขอเพียงฟื้นฟูพลังชีวิตของลั่วไห่ผิงขึ้นมาได้ชั่วคราว พวกเขาก็จะคิดว่าอาการป่วยของลั่วไห่ผิงดีขึ้นแล้ว!

ทันทีที่แทงเข็มเงินลงไป ลั่วไห่ผิงก็พลันสะดุ้งตื่นด้วยความเจ็บปวดแล้วกระอักโลหิตออกมาคำหนึ่ง

ลั่วเยวี่ยอิงได้ยินเสียงก็รีบวิ่งเข้าไปในห้อง

เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้เข้า นางก็สีหน้าซีดขาวพลางร้องอุทานว่า “เจ้าทำกระไรท่านพ่อของข้า!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย