ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 465

ในยามนี้เอง หลังจากลั่วเยวี่ยอิงได้ยินวาจาเหล่านี้ก็ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ “ลั่วชิงยวน เจ้าทำเกินไปแล้ว!”

นางรู้สึกตื่นตระหนกมากเสียจนอยากจะพุ่งเข้าไปหา แต่กลับถูกฟู่เฉินหวนรั้งแผ่นหลังเอาไว้

ลั่วชิงยวนหยิบเข็มเงินแล้วฝังให้ลั่วไห่ผิงด้วยความเชี่ยวชาญ

หามีหมอหลวงคนใดกล้าเดินเข้ามาอีกไม่ อย่างไรเสีย หากเกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นกับท่านอัครเสนาบดี พวกเขาคงแบกรับมิไหวเป็นแน่ พวกเขาจึงได้แต่จับตามองทุกความเคลื่อนไหวของลั่วชิงยวน

ทว่าสิ่งที่สร้างความตกตะลึงให้แก่พวกเขาก็คือ การที่ลมหายใจของลั่วไห่ผิงค่อย ๆ สงบลงทีละนิด

มิได้เร็วเท่าก่อนหน้านี้อีกแล้ว

เห็นได้ว่าหน้าอกที่สะท้อนขึ้นลงสม่ำเสมอแล้ว

หมอหลวงต่างตกตะลึง

หลังจากลั่วชิงยวนฝังเข็มเสร็จสิ้น นางก็ถอนเข็มเงินออกมาแล้วหยิบโอสถเสริมลมปราณออกมาจากล่วมยามาป้อนให้ลั่วไห่ผิงกิน

หลังจากนั้นสักพัก สีหน้าของลั่วไห่ผิงกลับมีเลือดฝาด มิได้ซีดขาวเช่นก่อนหน้านี้อีก

ลั่วชิงยวนเอ่ยเสริมขึ้นมาว่า “เดี๋ยวข้าจะเขียนเทียบโอสถให้ เพียงแต่ต้องใช้เครื่องยาสมุนไพรทั่วไปเพื่อบำรุงกำลัง กินสักสามวันเดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง”

“เขาคงฟื้นแล้วลุกขึ้นได้ภายในสามวัน”

วิธีของนางสามารถฟื้นฟูลั่วไห่ผิงให้ดีขึ้นชั่วคราวเท่านั้น ทว่าต้นตอของโรคยังคงอยู่

ยามนี้ช่วยชีวิตของลั่วไห่ผิงได้ แต่วันข้างหน้าก็หามีผู้ใดรับประกันสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ไม่

เมื่อหมอหลวงได้ยินเช่นนี้ พวกเขาต่างรู้สึกประหลาดใจ

ครั้นลั่วชิงยวนลุกขึ้นเขียนใบเทียบยา พวกเขาต่างมารุมล้อมรอบตัวนาง

เมื่อตรวจดูอาการของลั่วไห่ผิงดูแล้ว

ต่างก็ร้องอุทานซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“ลมหายใจมั่นคงถึงเพียงนั้น ท่านทำได้อย่างไรกัน?”

“มิหนำซ้ำยังหายใจได้สะดวก ข้ารู้สึกว่าอาการดีขึ้นจริง ๆ!”

หมอหลวงต่างรู้สึกตกตะลึง

ลั่วเยวี่ยอิงเองก็ตะลึงงันจนรีบวิ่งเข้าไปหา “จริงหรือ? ท่านพ่อของข้าดีขึ้นจริง ๆ หรือเจ้าคะ?”

หมอหลวงต่างพากันพยักหน้า

ดังนั้นพวกเขาจึงหันเหความสนใจมายังเงาร่างที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊ะ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย