ในยามนี้เอง หลังจากลั่วเยวี่ยอิงได้ยินวาจาเหล่านี้ก็ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ “ลั่วชิงยวน เจ้าทำเกินไปแล้ว!”
นางรู้สึกตื่นตระหนกมากเสียจนอยากจะพุ่งเข้าไปหา แต่กลับถูกฟู่เฉินหวนรั้งแผ่นหลังเอาไว้
ลั่วชิงยวนหยิบเข็มเงินแล้วฝังให้ลั่วไห่ผิงด้วยความเชี่ยวชาญ
หามีหมอหลวงคนใดกล้าเดินเข้ามาอีกไม่ อย่างไรเสีย หากเกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นกับท่านอัครเสนาบดี พวกเขาคงแบกรับมิไหวเป็นแน่ พวกเขาจึงได้แต่จับตามองทุกความเคลื่อนไหวของลั่วชิงยวน
ทว่าสิ่งที่สร้างความตกตะลึงให้แก่พวกเขาก็คือ การที่ลมหายใจของลั่วไห่ผิงค่อย ๆ สงบลงทีละนิด
มิได้เร็วเท่าก่อนหน้านี้อีกแล้ว
เห็นได้ว่าหน้าอกที่สะท้อนขึ้นลงสม่ำเสมอแล้ว
หมอหลวงต่างตกตะลึง
หลังจากลั่วชิงยวนฝังเข็มเสร็จสิ้น นางก็ถอนเข็มเงินออกมาแล้วหยิบโอสถเสริมลมปราณออกมาจากล่วมยามาป้อนให้ลั่วไห่ผิงกิน
หลังจากนั้นสักพัก สีหน้าของลั่วไห่ผิงกลับมีเลือดฝาด มิได้ซีดขาวเช่นก่อนหน้านี้อีก
ลั่วชิงยวนเอ่ยเสริมขึ้นมาว่า “เดี๋ยวข้าจะเขียนเทียบโอสถให้ เพียงแต่ต้องใช้เครื่องยาสมุนไพรทั่วไปเพื่อบำรุงกำลัง กินสักสามวันเดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง”
“เขาคงฟื้นแล้วลุกขึ้นได้ภายในสามวัน”
วิธีของนางสามารถฟื้นฟูลั่วไห่ผิงให้ดีขึ้นชั่วคราวเท่านั้น ทว่าต้นตอของโรคยังคงอยู่
ยามนี้ช่วยชีวิตของลั่วไห่ผิงได้ แต่วันข้างหน้าก็หามีผู้ใดรับประกันสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ไม่
เมื่อหมอหลวงได้ยินเช่นนี้ พวกเขาต่างรู้สึกประหลาดใจ
ครั้นลั่วชิงยวนลุกขึ้นเขียนใบเทียบยา พวกเขาต่างมารุมล้อมรอบตัวนาง
เมื่อตรวจดูอาการของลั่วไห่ผิงดูแล้ว
ต่างก็ร้องอุทานซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ลมหายใจมั่นคงถึงเพียงนั้น ท่านทำได้อย่างไรกัน?”
“มิหนำซ้ำยังหายใจได้สะดวก ข้ารู้สึกว่าอาการดีขึ้นจริง ๆ!”
หมอหลวงต่างรู้สึกตกตะลึง
ลั่วเยวี่ยอิงเองก็ตะลึงงันจนรีบวิ่งเข้าไปหา “จริงหรือ? ท่านพ่อของข้าดีขึ้นจริง ๆ หรือเจ้าคะ?”
หมอหลวงต่างพากันพยักหน้า
ดังนั้นพวกเขาจึงหันเหความสนใจมายังเงาร่างที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊ะ
ท่าทีเคร่งขรึมเช่นนั้นออกจะน่าหวาดกลัวอยู่บ้าง
หมอหลวงรีบก้มหน้าพลางกล่าวว่า “รับทราบพ่ะย่ะค่ะ”
“พวกเราจักใช้โอสถตามเทียบโอสถพ่ะย่ะค่ะ”
ทันใดนั้นฟู่เฉินหวนก็เดินออกไปจากห้อง
ลั่วเยวี่ยอิงรู้สึกตื่นตกใจอยู่บ้างแล้วรีบลุกขึ้นหมายจะเอ่ยวาจาสักคำ ทว่านางกลับพบว่าเงาร่างของฟู่เฉินหวนหายลับไปไกลแล้ว
ท่านอ๋องมิโกรธเลยหรือไรกัน? เช่นนั้นไฉนจึงต้องพาลั่วชิงยวนมารักษาบิดาของนางด้วยเล่า?
ลั่วเยวี่ยอิงอยากจะตามไป แต่เมื่อนางมองเห็นบิดาที่นอนอยู่บนเตียงก็กลับมาคอยดูแลเขาอยู่ข้างเตียง
ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วมาตลอดทางที่ออกมา เขารู้สึกลังเลใจก่อนจะขึ้นรถม้าไป
เขานึกถึงสิ่งที่ตนอยากจะพูด
เมื่อเขาขึ้นรถม้าและกำลังจะเอ่ยวาจา
ทว่าน้ำเสียงเย็นชากลับดังขึ้นเสียก่อน…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...