น้ำเสียงสั่นเครือแฝงแววหวาดหวั่นทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกปวดใจไปชั่วครู่หนึ่ง จากนั้นนางก็ยกมือขึ้นมาลูบศีรษะของอีกฝ่าย "เจ้าเด็กโง่เอ๋ย ข้าจะไม่ต้องการเจ้าได้อย่างไรเล่า"
"พระชายา แม่บ้านเมิ่งโดนจัดการย่ำแย่เสียเพียงนั้น ถ้าเกิดนางเอาเรื่องไปบอกท่านอ๋องจะทำอย่างไรหรือเจ้าคะ? ท่านอ๋องจะลงโทษท่านหรือไม่? " จือเฉามองนางด้วยสายตาเป็นกังวล
"ไม่ใช่ปัญหาใหญ่หรอก เจ้าพักรักษาตัวอยู่ในห้องให้ดี ๆ เถอะ อย่าได้เที่ยวเดินเตร็ดเตร่ไปทั่ว แม่นมเติ้งก็อยู่กับข้าทั้งคน"
จือเฉาผงกศีรษะ
ทันทีที่พูดจบ ซูโหยวก็เดินเข้ามาในเรือน "ท่านอ๋องรับสั่งให้พระชายาเข้าเฝ้าขอรับ"
ลั่วชิงยวนไม่แปลกใจที่ฟู่เฉินหวนจะตามหาตน
นางเดินตามซูโหยวไปยังเรือนของฟู่เฉินหวน
ยังมีคราบโลหิตอยู่ในเรือน และแม่บ้านเมิ่งก็เคยมาที่นี่ แต่นางกลับไปแล้ว คาดว่านางคงถูกนำตัวไปรักษาอาการบาดเจ็บของตน
ยามที่นางเดินเข้ามาในเรือน นางก็เห็นฟู่เฉินหวนเอามือไพล่หลังพลางทำสีหน้าหม่นคล้ำระหว่างที่รอนาง
"พอกลับมาถึงตำหนักก็อยู่ไม่สุขเลยสินะ เจ้าจงใจหาเรื่องช้าผู้เป็นอ๋องใช่หรือไม่!" สีหน้าของฟู่เฉินหวนตะคอกใส่ด้วยโทสะ
ลั่วชิงยวนกลับมีสีหน้าสงบนิ่งและเถียงข้าง ๆ คู ๆ "หม่อมฉันมิได้หาเรื่อง"
เรียวคิ้วของฟู่เฉินหวนฉายแววโทสะ ประกายเยียบเย็นในดวงตาของเขาราวกับจะสังหารคนได้ "เจ้ายังจะเล่นลิ้นอยู่อีก!"
"ใครก็ได้!" ฟู่เฉินหวนโกรธจัด "โบยยี่สิบไม้!"
ลั่วชิงยวนเงยหน้ามองเขาด้วยความไม่อยากเชื่อ "หม่อมฉันก็แค่สั่งสอนทาส ท่านจะลงมือกับหม่อมฉันเพราะทาสเช่นนั้นหรือเพคะ?"
นางรู้สึกตื่นตะลึงแล้วความหนาวเหน็บก็แล่นเข้าเกาะกุมจิตใจ
แววตาของฟู่เฉินหวนเยียบเย็นราวกับกริช "เจ้าเพียงแค่สั่งสอนทาสรึ? ข้าเห็นแต่เพียงว่าเจ้ายังไม่รู้ว่าตนกระทำอันใดผิด!"
องครักษ์ขยับม้านั่งพร้อมถือไม้โบยขนาดยาวมาด้วย จากนั้นก็พลันกดลั่วชิงยวนลงกับม้านั่งทันที
นางไร้เรี่ยวแรงจะขัดขืน
ไม้โบยก็หวดฟาดลงมาทันที
ความเจ็บปวดทำให้นางต้องจิกเล็บเข้ากับม้านั่ง หน้าผากของนางมีเส้นเลือดสีเขียวปูดโปนขึ้นมาแล้วนางก็ฝืนเงยหน้าขึ้นมาพลางถามเขาว่า "เช่นนั้นท่านอ๋องตรัสได้หรือไม่ว่า หม่อมฉันกระทำผิดอันใด?"
สีหน้าของฟู่เฉินหวนเต็มไปด้วยโทสะ น้ำเสียงทั้งเย็นชาและแข็งกร้าว "ทาสกระทำความผิดต้องรายงานแก่ข้า แล้วข้าจะจัดการเอง ถึงทีให้เจ้าลงมือแล้วหรือ? พระชายาผู้สูงศักดิ์ต่อสู้กับคนในเรือนจนบาดเจ็บสาหัส นี่หรือกิริยาของพระชายา!"
ลั่วชิงยวนขบฟันแน่น จิตใจของนางทั้งโกรธเกรี้ยวและขุ่นเคือง นางอดทนต่อความเจ็บปวดแล้วแววตาก็ค่อย ๆ เย็นชา "เช่นนั้นหม่อมฉันขอถามท่านอ๋องบ้าง ถ้าหากหม่อมฉันรายงานให้ท่านอ๋องทราบ ท่านอ๋องจะตัดสินแทนหม่อมฉันหรือไม่เพคะ?"
เมื่อได้ยินนางกลั้นใจตั้งคำถาม เขาก็พลันตัวแข็งทื่อ ตนจะตัดสินแทนนางหรือไม่?
เมื่อลั่วชิงยวนเห็นเขามีท่าทีลังเลใจก็ยิ้มเยาะพลางหลั่งน้ำตา "ท่านอ๋องไม่ต้องมาตัดสินแทนหม่อมฉันหรอก หม่อมฉันก็แค่ทำตามวิธีของตัวเองเท่านั้น!"
แววตาของฟู่เฉินหวนแปรเปลี่ยนเป็นเยียบเย็น จากนั้นเขาก็สะบัดแขนเสื้อด้วยความเย็นชา "ไร้เหตุผล!"
ไม้โบยฟาดลงมาไม่หยุดหย่อน ลั่วชิงยวนกอดม้านั่งเอาไว้แน่นด้วยความเจ็บปวด นางรู้สึกเพียงแต่ว่าเล็บจวนจะหักอยู่แล้ว ทว่านางกลับกัดฟันไม่เอ่ยสิ่งใดสักคำเดียว
"หึ ถ้าหากท่านอ๋องเห็นหม่อมฉันเป็นพระชายาจริง ๆ คนในตำหนักก็คงจะไม่รังแกหม่อมฉัน และเรื่องวันนี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้นหรอกเพคะ"
"ท่านอ๋องหาได้ปฏิบัติกับหม่อมฉันเยี่ยงพระชายาไม่ แต่ท่านทรงต้องการให้หม่อมฉันดูเหมือนพระชายา น่าขันสิ้นดี"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
กลับมาอัพแล้ว เย่ๆ🥰...
รออ่านตอนต่อไปค่ะ...
รออ่านอยู่นะคร้าาาาาาา...
ไม่อัพแล้วรึคะ...
รออ่านอยู่ค่ะ...
ต่อค่ะต่อ...