ลั่วชิงยวนเดินไปดูที่ริมทางเดิน พบว่าใต้เวทีกลมนั้นเต็มไปด้วยหีบไม้
ซึ่งจัดวางกันไว้อย่างเป็นระเบียบ
ฟู่จิ่งหลีไขว้ขาพิงเก้าอี้อย่างเกียจคร้าน เห็นนางที่ทิศไกล เขาจึงยักคิ้วและยิ้มเอ่ย “ในที่สุดก็รอจนแม่นางฝูเสวี่ยมาเสียที”
“เหล่านี้ เป็นของกำนัลที่ข้าเตรียมไว้ให้กับแม่นาง มิรู้ว่าแม่นางชอบหรือไม่”
เพิ่งสิ้นเสียง กล่องหีบก็ถูกเปิดออกอย่างพร้อมเพรียง
แสงทองแสบตาประกายจ้า
แวววับเสียจนผู้คนต่างพากันหลับตา
ทองหมดเลย!
รอบด้านกระหน่ำไปด้วยเสียงตะลึง พวกเขาต่างตกใจเป็นอย่างยิ่ง
เสียงของฟู่จิ่งหลีดังขึ้น “นี่คือเครื่องประดับทองหมื่นชิ้นที่ข้าหล่อหลอมเพื่อแม่นางฝูเสวี่ย”
“มิทราบว่าแม่นางฝูเสวี่ยชอบสิ่งใด แต่มิว่าใบไม้บุปผาหรือนกปลาหงส์มังกร ข้าต่างหลอมไว้หมดแล้ว เชื่อว่าในเครื่องประดับหมื่นชิ้น ต้องมีสักชิ้นถูกใจแม่นาง”
ในใจลั่วชิงยวนก็ตกตะลึงเป็นอย่างมาก
เครื่องประดับทองหมื่นชิ้น!
ใจป้ำสุด ๆ!
หากพูดให้น่าฟังก็คือใจกว้าง
แต่พูดให้มิน่าฟังก็คือลูกล้างผลาญ
นางสงสัยมากจริง ๆ สรุปว่าตาของฟู่จิ่งหลีทิ้งทรัพย์สินไว้ให้เขาเท่าใดกันแน่ เขาจึงใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายได้อย่างไร้กังวลเช่นนี้
“ของกำนัลขององค์ชายเจ็ดมูลค่ามากเพียงนี้ หม่อมฉันมิกล้ารับไว้เพคะ” ลั่วชิงยวยมิกล้ารับไว้จริง ๆ
แต่ฟู่จิ่งหลีกลับวางขาลงและค่อย ๆ ลุกขึ้น ไขว้มือไว้ด้านหลังพร้อมมองมาที่นาง “แม่นางฝูเสวี่ยมิชอบหรือ? เช่นนั้นครั้งหน้าให้ข้าเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นดีหรือไม่?”
“มิว่าเขาเงินหรือเขาทอง ตามแต่แม่นางเลือกเถอะ!”
คำพูดของฟู่จิ่งหลี ทำแม่นางในหอต่างหลงใหล และรู้สึกอิจฉาเป็นที่สุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
หลงเข้ามาอ่านเสียเวลาตั้งนาน ในเรื่องมีแต่พวกสติไม้เต็ม พระเอกปัญญาอ่อน+ ไบโพล่า กลับกลอกชิบหาย นางเอกก็โง่จนเอียนหวังพึ่งพอ ช่วยพอ.มันทำห่าอะไร ทำดีไม่เคยได้ดี ประสาทแดก...
นังเอกนี่ควายมั้ย โง่บรม...
กำลังสนุกเลยค่ะต่อๆค่ะ...
เนื้อเรื่องไม่มีความฉลาดเลย แต่ละคน บ้าบอมาก...
ตายๆ ไปซะ นางเอกไร้น้ำยา ทำอะไรก้ไม่ได้ดีซักอย่าง...
พระชายยา เหี้ยไร ไร้น้ำยาสิ้นดี เหมือนนางทาส...
นางเอกก็หน้าด้านชิบหาย ผัวเกลี่ยดขนาดนี้ ก็ยังหน้าด้านทน...
🫠...
อ๋องคือโง่มากอะ เหมือนจะฉลาดแต่ก็ไม่พกสติเลย นางเอกก็โดนทรมานเกิน...
กลับมาแล้ว ว้าวววววววววววว...