ประตูโดนถีบให้เปิดออก
แสงสว่างจ้าสาดส่องเข้ามาในห้องมืดสลัวอีกครั้ง
หลิวหม่านผงะอึ้ง “ผู้ใดกัน?”
ยามที่ลั่วชิงยวนที่แสนกะปลกกะเปลี้ยหันหน้าไปมอง ก็เห็นเงาร่างเย็นชารีบเดินเข้ามาท่ามกลางแสงสว่าง
เมื่อฟู่เฉินหวนเห็นเหตุการณ์ฉากนี้ เส้นโลหิตบนหน้าผากก็ปูดโปนขึ้นมา จากนั้นเจตนาสังหารก็ปะทุขึ้นในแววตาแล้วเขาก็เตะหลิวหม่านอย่างแรง
เมื่อเห็นรอยเลือดบนพื้น เสื้อคลุมที่ขาดวิ่นและรอยแดงเป็นจำนวนมากบนหลังมือของนาง โทสะของฟู่เฉินหวนก็ปะทุราวกับภูเขาไฟที่จวนจะระเบิด
เขารีบถอดเสื้อคลุมของตนมาห่มคลุมบนร่างของนาง
เขาห่อตัวนางเอาไว้แล้วรีบอุ้มนางออกไป
ลั่วชิงยวนเอนซบอกของเขาอย่างอ่อนแรงพลางมองเขาด้วยสายตาอันพร่าเลือน จากนั้นเสียงแผ่วเบาทว่าคมกริบราวกับดาบน้ำแข็งของนางก็เอ่ยขึ้นมาว่า "ไยท่านต้องช่วยหม่อมฉันด้วย? นี่มิใช่สิ่งที่ท่านอยากจะเห็นหรอกรึ?"
ไม่มีทางที่เขาจะมิโทษตนเองเลย
น้ำเสียงเย็นชาไร้อารมณ์ใด ๆ เช่นนั้น กลับกลายเป็นมีดคมกริบนับไม่ถ้วนที่แทงทะลุหัวใจของฟู่เฉินหวนขึ้นมาทันที
คิ้วตาเปี่ยมไปด้วยความเกลียดชัง ดวงตาแดงก่ำไปด้วยเจตนาสังหาร พร้อมโทสะที่กลืนกินตัวเขาราวกับไฟลามทุ่ง เขาปรารถนาที่จะฉีกทุกคนในตระกูลหลิวให้เป็นชิ้น ๆ นัก!
ขณะที่ฟู่เฉินหวนคว้าประตูแล้วเดินออกมา ลั่วชิงยวนก็เห็นองครักษ์ยืนเป็นระเบียบอยู่ในลานเรือน ผู้คนนับไม่ถ้วนที่เห็นภาพเหตุการณ์ฉากนี้ต่างมองมาที่นาง
ความรู้สึกอัปยศอดสูเอ่อล้นขึ้นในใจของนาง จากนั้นนางก็ซบใบหน้าลงในอ้อมแขนของเขา เพราะมิอยากให้ผู้ใดต้องมาเห็นความน่าอัปยศอดสูของตน
ความเคลื่อนไหวเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำให้ฟู่เฉินหวนยิ่งร้อนใจมากขึ้น
“พวกเจ้ามัวแต่ยืนนิ่งกาปะไร! จับทุกคนในตระกูลหลิวไปขังให้หมด หากมีผู้ใดปล่อยให้หลุดรอดไปได้แม้แต่คนเดียว เป็นได้เห็นดีกันแน่!"
ฟู่เฉินหวนตะคอกด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด
องครักษ์ในลานเรือนพลันแยกย้ายกันไปทันที
จากนั้นเสียงกรีดร้องของเหล่านางรับใช้และคนรับใช้ก็ดังขึ้นมาจากในจวน แล้วก็มีน้ำเสียงตื่นตระหนกดังแววออกมาจากเรือน
ทันทีที่เขาก้าวออกจากจวนตระกูลหลิวและพ้นภยันตรายแล้ว ลั่วชิงยวนก็รู้สึกอ่อนเพลียและหมดสติไปในที่สุด
เพียงชั่วขณะจิตสุดท้ายขณะที่นางไม่รู้สึกตัว นางก็เห็นองครักษ์ขนย้ายเงินจำนวนมหาศาลออกมา
ซูโหยวกำลังรอคอยอยู่ตรงประตู “ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ”
“ไปเชิญท่านหมอซ่งมา” ฟู่เฉินหวนออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“พ่ะย่ะค่ะ”
ทันทีที่ฟู่เฉินหวนกล่าวจบ เขาก็กระโดดขึ้นหลังอาชาพร้อมลั่วชิงยวนที่อยู่ในอ้อมแขน จากนั้นก็ควบขี่อาชากลับตำหนักอ๋องด้วยท่าทีร้อนรนกังวลใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
พระเอกก็โง่ นางเอกก็งี้เง่าไม่สมเหตุสมผลอะไรสักอย่าง ตอนแรกก็อวยยศเป็นถึงปรมาจารย์ แต่สกิลอ่อนด๋อยมาก เสียเวลาอ่านจริงๆ จะครึ่งเรื่องละยังไม่มีสาระอะไรเลย...
หลงเข้ามาอ่านเสียเวลาตั้งนาน ในเรื่องมีแต่พวกสติไม้เต็ม พระเอกปัญญาอ่อน+ ไบโพล่า กลับกลอกชิบหาย นางเอกก็โง่จนเอียนหวังพึ่งพอ ช่วยพอ.มันทำห่าอะไร ทำดีไม่เคยได้ดี ประสาทแดก...
นังเอกนี่ควายมั้ย โง่บรม...
กำลังสนุกเลยค่ะต่อๆค่ะ...
เนื้อเรื่องไม่มีความฉลาดเลย แต่ละคน บ้าบอมาก...
ตายๆ ไปซะ นางเอกไร้น้ำยา ทำอะไรก้ไม่ได้ดีซักอย่าง...
พระชายยา เหี้ยไร ไร้น้ำยาสิ้นดี เหมือนนางทาส...
นางเอกก็หน้าด้านชิบหาย ผัวเกลี่ยดขนาดนี้ ก็ยังหน้าด้านทน...
🫠...
อ๋องคือโง่มากอะ เหมือนจะฉลาดแต่ก็ไม่พกสติเลย นางเอกก็โดนทรมานเกิน...