สายตาของลั่วชิงยวนแปรเปลี่ยนเป็นเยียบเย็นแล้วนางก็ค่อย ๆ ติดตามไป
หลังจากเห็นลั่วเยวี่ยอิงออกไปจากตำหนักอ๋องแล้ว อีกฝ่ายก็เดินเข้าไปในตรอกด้วยเส้นทางอันคดเคี้ยวท่ามกลางถนนหนทางที่แสนเงียบสงัด
ยามดึกสงัด เสียงฝีเท้าในตรอกช่างเบายิ่งนัก ลั่วชิงยวนลดเสียงแล้วตามไปโดยที่ลั่วเยวี่ยอิงมิทันสังเกตเห็น
นางมิคาดคิดเลยว่าลั่วเยวี่ยอิงจะใจกล้าถึงขนาดอาจหาญเดินไปตามลำพังบนถนนเส้นเล็ก ๆ ยามกลางดึก
แต่หากมองอีกมุมหนึ่ง นี่อาจจะมิใช่ครั้งแรกที่นางเดินผ่านถนนสายนี้ เพราะนางแลดูคุ้นเคยจึงมิได้หวาดกลัวเลยสักนิด
ในที่สุดลั่วเยวี่ยอิงมาถึงประตูหลังของเรือนแห่งหนึ่งแล้วเคาะประตู
ไม่นานนักประตูก็เปิดออกแล้วลั่วเยวี่ยอิงก็เดินเข้าไป
จากมุมที่ลั่วชิงยวนกำลังยืนอยู่ ทำให้นางมองไม่เห็นว่าผู้ใดเปิดประตู ดังนั้นหลังจากได้ยินเสียงประตูปิดลง นางจึงได้แต่ปีนป่ายขึ้นไปบนกำแพง
ตรงมุมกำแพงคือชั้นวางกระถางต้นไม้ที่ลั่วชิงยวนใช้กำบังเพื่อแอบมองเข้าไปในเรือน ณ ตำแหน่งที่ลั่วเยวี่ยอิงกำลังทุ่มเถียงกับบุรุษผู้หนึ่งอยู่
นางถึงกับโผเข้ามาในอ้อมแขนของอีกฝ่าย
นางร้องไห้พลางกล่าวว่า “ยามนี้เขามีคนอื่นแล้วจริง ๆ ทั้งยังเริ่มสงสัยข้าด้วย ข้าควรทำเช่นไรดี?”
เหยียนผิงเซียวชักจะเหลืออดกับเสียงร้องไห้ของลั่วเยวี่ยอิง ทว่าก็ยังคงปลอบโยนนาง “มิต้องห่วงไปหรอก”
“วันนี้ตอนที่เจ้าไปที่ตำหนักอ๋องเกิดเรื่องอันใดขึ้น? เจ้าพบอันใดบ้างหรือไม่? ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการยังสืบเรื่องนั้นอยู่อีกหรือ?”
ลั่วเยวี่ยอิงผงกศีรษะ “ใช่ เขาน่าจะยังสืบอยู่ วันนี้จึงมิยอมให้ข้าเข้าไปในห้องตำราเพราะเกรงว่าข้าอาจแอบฟังเอาได้”
เหยียนผิงเซียวจึงรับรองกับนางว่า “เช่นนั้นเจ้าก็ถอยมิได้อีกแล้ว หากเขาเกิดรู้บางอย่างขึ้นมาจริง ๆ เจ้าต้องประสานทั้งในและนอกตำหนักอ๋องกับข้า"
“อย่าห่วงไปเลย ฟู่เฉินหวนมีรักลึกซึ้งให้แก่เจ้า เขาถึงขนาดบีบบังคับให้ลั่วชิงยวนรักษาบิดาของเจ้าได้ เช่นนี้ก็แสดงให้เห็นถึงตำแหน่งของเจ้าในใจของเขาแล้ว”
เมื่อลั่วเยวี่ยอิงได้ยินเช่นนี้เข้าก็มีสีหน้าไม่พอใจแล้วเบือนหน้าหนี “ยังจะเอ่ยถึงเรื่องของลั่วชิงยวนอีก เขามิปล่อยให้ข้าไปหาลั่วชิงยวน เพราะเกรงว่าข้าจักทำอันใดลั่วชิงยวน”
“ยามนี้คนรับใช้ในตำหนักอ๋องล้วนอยู่ภายใต้การควบคุมของแม่นมเติ้งผู้นั้น ทั้ง ๆ ที่ลั่วชิงยวนซ่อนตัวอยู่ในตำหนักอ๋อง แต่กลับมิอาจสังหารลั่วชิงยวนได้!”
เมื่อเหยียนผิงเซียวได้ยินเช่นนี้ก็คว้าแขนของนางเอาไว้อีกครั้ง “เยวี่ยอิง ผู้ที่สำเร็จการใหญ่ได้จำต้องสงบนิ่งเข้าไว้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...
คิดถึงอาเหลาอ่ะ... หายไปไหน2วันแล้วนะ...
สนุกมากค่ะ เนื้อเรื่องไม่น่าเบื่อ ดำเนินเรื่องดี เป็นเรื่องแรกที่อ่านทุกตอนเลยค่ะ...