ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 542

เมื่อเว่ยอวิ๋นเสี่ยและคนอื่น ๆ เห็นลั่วอวิ๋นสี่เดินเข้ามา พวกนางก็เห็นบุรุษผู้หนึ่งตามนางมาด้วย พวกนางจึงแค่นเสียงด้วยท่าทีไม่พอใจ “ข้ามิสนใจหรอกว่าวันนี้จะเป็นงานอันใด หากมีแต่นางรำจากหอนางโลมก็แล้วไปเถิด แต่ยามนี้ถึงกับมีนักเลงด้วย”

“ข้ามิลดตัวไปนั่งกับคนพรรค์นั้นหรอก”

หลังจากเว่ยอวิ๋นเสี่ยพูดจบ นางก็หันหลังเดินจากไป

คนอื่น ๆ เองก็ออกไปจากสวนเซียงอู๋พร้อมกับเว่ยอวิ๋นเสี่ยด้วย

หลังจากลั่วชิงยวนเห็นพวกนางจากไปแล้ว สายตาของนางก็ทอดมองมายังบุรุษที่อยู่ข้างหลังลั่วอวิ๋นสี่

สวีซงหย่วน

คาดไม่ถึงเลยว่า ลั่วอวิ๋นสี่ยังอยู่กับสวีซงหย่วน

เขาคิดจะทำอันใดกันแน่? ยามนี้จวนมหาราชครูต่างล้มหายตายจาก เหลือเพียงฮูหยินลั่วที่เจ็บป่วยกระเสาะกระแสะ เขาจะได้อันใดอีกหรือ?

ทว่าเขาก็ยังคิดจะหลอกลั่วอวิ๋นสี่ให้ได้

“พี่สวี อย่าไปถือสาคำพูดของพวกนางเลย ท่านหาใช่นักเลงไม่ เพียงแต่ว่าพวกนางไม่รู้ก็เท่านั้น!” ลั่วอวิ๋นสี่เองก็หันมาปลอบโยนสวีซงหย่วน

สวีซงหย่วนมองลั่วอวิ๋นสี่พลางยิ้มด้วยท่าทีรักใคร่ “ข้ามิสนใจหรอกว่าผู้อื่นคิดกับว่าเช่นใด เจ้ารู้ว่าข้าเป็นคนเช่นไรก็พอแล้ว”

ลั่วอวิ๋นสี่แย้มยิ้มพริ้มพราย “แน่นอนว่าข้าย่อมต้องรู้อยู่แล้ว”

“พี่สวีเป็นคนที่ดีกับข้าที่สุดในใต้หล้า!”

เมื่อลั่วอวิ๋นสี่พูดจบก็จูงมือเขาเดินจากไป

ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว หากมองเช่นนี้พวกเขาก็ราวกับเป็นคู่รักอันแสนหวานชื่นจริง ๆ หากสวีซงหย่วนเป็นคนดีบางทีพวกเขาก็อาจจะอยู่ด้วยกันได้

ไม่นานทุกคนก็มาถึงลานสนามแล้วนั่งลงกันทีละคน ๆ

ท่ามกลางลำธารอันคดเคี้ยว ต้นท้อยามวสันตฤดูล้วนเป็นสีแดงราวผลอิงเถา(1) เมื่อสายลมพัดพา กลีบดอกก็จะปลิวสะบัดพัดพลิ้วแล้วร่วงหล่นสู่ลำธาร บังเกิดเป็นภาพอันแสนงดงาม

วันนี้บรรดาคุณชายและคุณหนูจากตระกูลขุนนางต่างมาที่นี่ เพื่อสนทนาเรื่องกวีและบทเพลง

เมื่อลั่วเยวี่ยอิงเดินเข้ามา ก็มีนางรับใช้ยกขนมตามเข้ามาด้วย

“นี่คือขนมร้อยบุปผาที่เรือนเยวี่ยอิงเพิ่งจะลองทำขึ้นมา ยังไม่มีวางจำหน่าย วันนี้ข้าสั่งมาให้ทุกท่านได้ลิ้มลองโดยเฉพาะ”

เหล่านางรับใช้วางขนมร้อยบุปผาลงบนสายน้ำที่กำลังไหลริน จากนั้นทุกคนก็หยิบขนมขึ้นมาลองชิมทีละคน ๆ พลางชื่นชมไม่ขาดปาก

“หวานแต่ไม่เลี่ยน รสชาติอร่อยยิ่งนัก”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย