ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 543

หลังจากนั้นไม่นาน ลั่วเยวี่ยอิงก็เดินเข้ามาพร้อมขนมจานใหม่

“คราวนี้เป็นขนมกุ้ยฮวา(1)ที่ข้าลงทุนขอร้องให้พ่อครัวแห่งเรือนเยวี่ยอิงทำขึ้นโดยเฉพาะ ทุกท่านต้องชิมให้ได้นะเจ้าคะ!”

เมื่อลั่วเยวี่ยอิงพูดจบ ขนมก็ถูกจัดวางในลำธารแล้วถูกหยิบไปคนละชิ้น ๆ เมื่อถึงทีของลั่วชิงยวนก็เหลือเพียงชิ้นสุดท้าย นางจึงมิได้เอื้อมมือไปหยิบ

“แม่นางฝูเสวี่ย เจ้ามิชอบหรือ?” ลั่วเยวี่ยอิงยิ้มพลางมองมาที่นาง

เดิมทีหามีผู้ใดให้ความสนใจลั่วชิงยวนที่อยู่ ณ มุมหนึ่ง แต่เมื่อลั่วเยวี่ยอิงเอ่ยขึ้นมาเช่นนี้ หลาย ๆ คนจึงหันมาให้ความสนใจทันที

ลั่วชิงยวนหยิบขนมกุ้ยฮวามาอังใต้มูกแล้วสูดดม จากนั้นกลิ่นโอสถจาง ๆ ก็ลอยเข้าจมูกของนาง

ลั่วเยวี่ยอิงกำลังมองนางอยู่

ลั่วชิงยวนยกแขนขึ้นบดบังใบหน้าพลางขยับหน้ากาก จากนั้นก็กัดขนมกุ้ยฮวากลิ่นหอมหวานเข้าไปคำหนึ่งแล้ววางกลับไปบนจาน

เมื่อเห็นนางกัดเข้าไปแล้ว ลั่วเยวี่ยอิงก็รู้สึกพอใจ

ในยามนี้เอง ผู้คนโดยรอบก็สังเกตเห็นฝูเสวี่ยแล้วหัวข้อสนทนาก็เปลี่ยนไป

“แม่นางฝูเสวี่ยผู้นี้มีความเป็นมาเช่นใดกันแน่? แม้แต่คุณหนูรองลั่วก็ถึงกับเชิญนางมาที่นี่ ทั้ง ๆ ที่นางเป็นแค่นางรำจากหอนางโลมแท้ ๆ”

“ผู้ใดจะรู้เล่า? ว่ากันว่านางรูปโฉมงดงามราวกับเทพธิดา ทว่ากลับหามีผู้ใดเคยเห็นนางถอดหน้ากากออก เกรงว่าใต้หน้ากากนั้นอาจจะมีใบหน้าอันแสนอัปลักษณ์อยู่ก็เป็นได้”

“มิฉะนั้น ไยนางจึงมิเปิดเผยหน้าตาที่แท้จริงให้ผู้อื่นได้เห็นเล่า?”

“ยิ่งนางอัปลักษณ์มากเท่าไหร่ นางก็ยิ่งอวดตนว่างดงามได้มากขึ้นเท่านั้นอย่างไรเล่า”

หลายคนเอ่ยไปพลางหัวเราะไปพลางคนแล้วคนเล่า

วาจาและเสียงหัวเราะอันน่ารังเกียจของพวกเขาที่คมกริบราวกับมีดดังเข้าหูของลั่วชิงยวน

ทว่านางกลับหาได้ใส่ใจไม่

ลั่วเยวี่ยอิงเองก็ได้ยินวาจาเหล่านี้จึงเดินเข้ามาหาลั่วชิงยวน “แม่นางฝูเสวี่ยยังมิค่อยชินกับเรื่องเช่นนี้อีกหรือ?”

“ดูเหมือนว่าข้าจะเสียมารยาทแล้ว ข้าขอเชิญแม่นางฝูเสวี่ยไปสนทนากันตรงท้ายเรือนเป็นอย่างไร?”

ลั่วชิงยวนตอบว่า “ย่อมได้”

จากนั้นนางก็ลุกขึ้นแล้วเดินจากไปพร้อมกับลั่วเยวี่ยอิง

สวนเซียงอู๋ใหญ่โตกว้างขวางนัก แม้แต่ท้ายเรือนก็ยังมีทัศนียภาพอันเป็นเอกลักษณ์และเงียบสงบยิ่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย