นางหันไปมองใต้เท้าเหอแล้วถามว่า “ใต้เท้า สิ่งที่ข้าประสบพบเจอมาในวันนี้ตรงข้ามกับสิ่งที่พวกนางว่ามาโดยสิ้นเชิง”
ลั่วชิงยวนจึงเล่าเรื่องนางต้องเผชิญให้ฟัง
ลั่วอวิ๋นสี่โมโหเสียจนพูดออกมาว่า “เหลวไหลทั้งเพ! เจ้าบอกว่าลั่วเยวี่ยอิงคิดทำร้ายเจ้า แต่ข้าบังเอิญไปพบเข้า นางก็เลยคิดจะสังหารข้า!”
“แต่เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเป็นเจ้า! ข้าจับเจ้าได้คาหนังคาเขาเชียวล่ะ!”
ลั่วอวิ๋นสี่เบิกบานใจเสียจนแทบกระโดดโลดเต้นอยู่แล้ว
ลั่วชิงยวนหรี่ตามองลั่วอวิ๋นสี่ กลิ่นอายมืดมนตรงหว่างคิ้วของอีกฝ่ายเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ และดูเหมือนแววตาก็ขุ่นมัวขึ้นมากทีเดียว
ลั่วชิงยวนเอ่ยน้ำเสียงเรียบนิ่งว่า “ข้ามีหลักฐานเจ้าค่ะ!”
“ลั่วเยวี่ยอิงเชิญข้าไปที่ศาลาตรงท้ายเรือนและมอบขนมร้อยบุปผาที่ใส่ตัวยาแปลกประหลาดลงไป ประกอบกับตัวยาในขนมกุ้ยฮวา ก็ทำให้คนหลับไปได้หลายชั่วยามแล้ว”
“ใต้เท้า ท่านเคยตรวจสอบดูหรือไม่!”
“ยิ่งไปกว่านั้น ข้ายังพบมีดสั้นเล่มนี้ตรงท้ายเรือน สิ่งนี้ชะรอยจักเป็นมีดสั้นที่แทงลั่วเยวี่ยอิง”
“มือสังหารแบบไหนกันที่จะแทงคนแล้ววิ่งหนีไป มิหนำซ้ำยังโยนอาวุธทิ้งอีกเจ้าค่ะ?”
“มีดสั้นเล่มนี้มาจากที่ใดกัน? ข้าคิดว่าหากใต้เท้าเหอตรวจดูให้ละเอียดก็ย่อมรู้ได้เองเจ้าค่ะ”
ยามที่ลั่วเยวี่ยอิงเห็นมีดสั้นที่เปรอะเปื้อนโลหิต นางก็พลันสีหน้าแปรเปลี่ยน
แต่แล้วนางกลับเอ่ยเสริมขึ้นมาว่า “ข้าหาล่วงรู้สิ่งที่มือสังหารผู้นั้นคิดได้เยี่ยงไรกันเล่า?”
ใต้เท้าเหอสีหน้าเคร่งขรึมพลางกล่าวว่า “หากตัดสินจากหลักฐานแล้ว สิ่งที่ฝูเสวี่ยว่ามาสอดคล้องกับสถานการณ์ตอนนั้นมากกว่า หากฝูเสวี่ยเป็นผู้ก่อเหตุ ไฉนนางจึงถูกขังอยู่ในห้องเล่า?”
“ส่วนมือสังหารชุดดำที่ลั่วเยวี่ยอิงว่ามา นอกจากเจ้าแล้วก็หามีผู้อื่นพบเห็นไม่ กอปรกับเรื่องทิ้งอาวุธเอาไว้ในที่เกิดเหตุก็ช่างไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย”
“หากพวกเจ้าสองคนโกหกก็จงสารภาพมาเดี๋ยวนี้ บางทีข้าอาจลงโทษพวกเจ้าสถานเบา!”
สีหน้าของลั่วเยวี่ยอิงแลดูไม่น่ามองยิ่ง นางมิทราบว่าควรจะตอบอย่างไรดี ดังนั้นนางจึงเอามือปิดหน้าแล้วเริ่มไอขึ้นมา
ลั่วอวิ๋นสี่พลันเดือดดาลขึ้นมา “ใต้เท้า ท่านสับสนแล้วหรือไม่? ถึงแม้ว่าพวกเราไร้ซึ่งหลักฐาน แต่ข้าก็เป็นพยานได้นะเจ้าคะ!”
“สิ่งที่ข้าประสบพบเจอมาด้วยตนเอง ยังจะผิดอีกหรือ?”
“หากสิ่งที่ฝูเสวี่ยกล่าวมาเป็นความจริงและนางช่วยชีวิตข้าเอาไว้ เช่นนั้นไฉนข้าต้องตอบแทนบุญคุณด้วยความแค้นเล่า? หลานสาวของท่านมหาราชครูลั่วเยี่ยงข้าจักกระทำเรื่องอย่างตอบแทนบุญคุณด้วยความแค้นได้อย่างไรกัน!”
เมื่อใต้เท้าเหอได้ยินเช่นนี้ก็ขมวดคิ้วอีกครั้ง คนผู้นี้เป็นหลานสาวของท่านมหาราชครูลั่ว ย่อมไม่มีทางตอบแทนบุญคุณด้วยความแค้นจริง ๆ นั่นแหละ
หลายคนต่างเห็นว่าฝูเสวี่ยพังประตูออกมาโดยแบกลั่วอวิ๋นสี่เอาไว้บนหลัง ลั่วอวิ๋นสี่ก็มิควรแว้งกัดเช่นนั้น หรือเป็นเพราะฝูเสวี่ยคิดจะทำร้ายนางก่อนจริง ๆ?
เรื่องนี้ใช่มีเรื่องเข้าใจผิดอันใดหรือไม่?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
พระเอกก็โง่ นางเอกก็งี้เง่าไม่สมเหตุสมผลอะไรสักอย่าง ตอนแรกก็อวยยศเป็นถึงปรมาจารย์ แต่สกิลอ่อนด๋อยมาก เสียเวลาอ่านจริงๆ จะครึ่งเรื่องละยังไม่มีสาระอะไรเลย...
หลงเข้ามาอ่านเสียเวลาตั้งนาน ในเรื่องมีแต่พวกสติไม้เต็ม พระเอกปัญญาอ่อน+ ไบโพล่า กลับกลอกชิบหาย นางเอกก็โง่จนเอียนหวังพึ่งพอ ช่วยพอ.มันทำห่าอะไร ทำดีไม่เคยได้ดี ประสาทแดก...
นังเอกนี่ควายมั้ย โง่บรม...
กำลังสนุกเลยค่ะต่อๆค่ะ...
เนื้อเรื่องไม่มีความฉลาดเลย แต่ละคน บ้าบอมาก...
ตายๆ ไปซะ นางเอกไร้น้ำยา ทำอะไรก้ไม่ได้ดีซักอย่าง...
พระชายยา เหี้ยไร ไร้น้ำยาสิ้นดี เหมือนนางทาส...
นางเอกก็หน้าด้านชิบหาย ผัวเกลี่ยดขนาดนี้ ก็ยังหน้าด้านทน...
🫠...
อ๋องคือโง่มากอะ เหมือนจะฉลาดแต่ก็ไม่พกสติเลย นางเอกก็โดนทรมานเกิน...