นางอดไม่ได้ที่จะถามลิ่นฝูเสวี่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ทำไมวันนี้ท่านมิเร่งข้า?”
ลิ่นฝูเสวี่ยลอยออกไปนั่งบนราวบันได นางแกว่งขาไปด้วยขณะมองดูผู้คนที่กระตือรือร้นอยู่ด้านล่าง “พวกเขามาที่นี่เพื่อพบเจ้า”
“ดูข้าสิ? ข้ามิรู้กระทั่งวิธีร่ายรำเทพเหมันต์ด้วยซ้ำ” ลั่วชิงยวนยิ้มเบา ๆ
ลิ่นฝูเสวี่ยเลิกคิ้วและมองดูนาง "อย่าคิดว่าข้ามิรู้ ท่านได้เรียนรู้รำเทพเหมันต์มานานแล้ว ท่านได้เรียนรู้ทุกสิ่งที่ข้าร่ายรำไปแล้ว"
“ตอนนี้ท่านเป็นลูกศิษย์ของลิ่นฝูเสวี่ย ท่านคู่ควรกับชื่อของท่านอย่างแท้จริง”
ลั่วชิงยวนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว "ไฉนวันนี้เจ้าทำตัวแปลก ๆ"
“ก็แค่อารมณ์อ่อนไหวเท่านั้น” ลิ่นฝูเสวี่ยยิ้มและหันไปมองนาง “ข้าว่า ข้าร่ายรำมามากพอแล้ว”
“ความยึดติดอย่างหนักหนาของข้า คือเรื่องที่ข้าเสียใจที่ไม่มีใครสืบทอดทักษะของข้า แต่บัดนี้ท่านได้เรียนรู้ทักษะทั้งหมดของข้าแล้ว คนเหล่านี้ล้วนมาที่นี่เพราะท่าน ข้าคิดว่า…”
ทันใดนั้น ลั่วชิงยวนก็เริ่มกังวล นางกำมือแน่นโดยไม่รู้ตัว
นางเกรงว่าคำพูดต่อไปของลิ่นฝูเสวี่ยคือ ‘ถึงเวลาจากกันแล้ว’
“ข้าคิดว่า.. .ท่านควรให้ค่าฝึกสอนหรืออะไรสักอย่างกับข้าหรือไม่?”
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “ว่ากระไรนะ? ค่าฝึกสอน? ข้าควรจะเผามันให้เจ้าหรืออย่างไร?”
ลิ่นฝูเสวี่ยผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นนางก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา เสียงหัวเราะที่ดังชัดมีพลังวิเศษที่ทะลุทะลวงหัวใจของผู้คน
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ข้าเกือบลืมไป ข้าก็มิสามารถรับได้เหมือนกัน”
“สิ่งที่ข้าเผชิญเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้ข้ามักจะรู้สึกว่าตนยังมีชีวิตอยู่เสมอ”
“เพียงแค่ เมื่อข้าได้เล่าเรื่องทุกอย่างที่เกี่ยวกับแม่ของท่านให้ฟังแล้ว เช่นนั้นข้าก็มิขอร่ายรำอีก ยืดติดกับเรื่องพวกนี้หาได้มีประโยชน์อันใด”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ลั่วชิงยวนจึงรู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก "วันนี้เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า?"
“เจ้ามิได้วางแผนจะจากไปจริง ๆ ใช่หรือไม่? เจ้าจะขาดความรับผิดชอบเช่นนี้มิได้”
หากลิ่นฝูเสวี่ยต้องการจากไปจริง ๆ ลั่วชิงยวนย่อมมิอาจยอมรับได้ นางมิเคยคิดเลยว่าลิ่นฝูเสวี่ยจะจากไป
น้ำเสียงของลิ่นฝูเสวี่ยเริ่มหมดความอดทน “ผู้ใดบอกว่าข้าจะจากไป ข้าแค่บอกกับท่านว่าข้าไม่มีความคิดยึดติดอะไรอีกต่อไปแล้ว"
“คราวหน้าหากจะร่ายรำอย่าใช้ชื่อของข้าแล้วกัน ท่านรำเองเถอะ ข้ามิช่วยแล้ว!”
เมื่อได้ยินน้ำเสียงอันคุ้นเคยนี้ ลั่วชิงยวนก็รู้สึกโล่งใจในที่สุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
พระเอกก็โง่ นางเอกก็งี้เง่าไม่สมเหตุสมผลอะไรสักอย่าง ตอนแรกก็อวยยศเป็นถึงปรมาจารย์ แต่สกิลอ่อนด๋อยมาก เสียเวลาอ่านจริงๆ จะครึ่งเรื่องละยังไม่มีสาระอะไรเลย...
หลงเข้ามาอ่านเสียเวลาตั้งนาน ในเรื่องมีแต่พวกสติไม้เต็ม พระเอกปัญญาอ่อน+ ไบโพล่า กลับกลอกชิบหาย นางเอกก็โง่จนเอียนหวังพึ่งพอ ช่วยพอ.มันทำห่าอะไร ทำดีไม่เคยได้ดี ประสาทแดก...
นังเอกนี่ควายมั้ย โง่บรม...
กำลังสนุกเลยค่ะต่อๆค่ะ...
เนื้อเรื่องไม่มีความฉลาดเลย แต่ละคน บ้าบอมาก...
ตายๆ ไปซะ นางเอกไร้น้ำยา ทำอะไรก้ไม่ได้ดีซักอย่าง...
พระชายยา เหี้ยไร ไร้น้ำยาสิ้นดี เหมือนนางทาส...
นางเอกก็หน้าด้านชิบหาย ผัวเกลี่ยดขนาดนี้ ก็ยังหน้าด้านทน...
🫠...
อ๋องคือโง่มากอะ เหมือนจะฉลาดแต่ก็ไม่พกสติเลย นางเอกก็โดนทรมานเกิน...